ตูบตาเศร้ามีชีวิตแสนรันทด
ถูกล่ามโซ่มาทั้งชีวิต อาศัยอยู่ในบ้านสุนัขเก่าโทรม
จนในที่สุดก็ได้ออกวิ่งเป็นครั้งแรก เมื่อถูกปลดโซ่ คืนอิสรภาพแก่มัน
แทบจะทั้งชีวิตที่ผ่านมาของ
พีนัท เจ้าตูบดวงตาเศร้าตัวนี้ คือการใช้ชีวิตอยู่ในสภาพไม่ต่างจากนักโทษที่ถูกคุมขัง
แม้จะมีเจ้าของคอยเลี้ยงดู แต่มันกลับไม่เคยได้รับความรักอย่างแท้จริง มันไม่เคยรู้จักกับคำว่าอิสรภาพ
ไม่เคยรู้จักการวิ่ง ทั้งนี้ก็เพราะโซ่หนัก ๆ ที่คล้องอยู่รอบคอมันมาทั้งชีวิต ทำให้มันรู้จักโลกนี้เฉพาะในขอบเขตที่โซ่สั้น
ๆ จะทอดยาวไปถึงเท่านั้น
อย่างไรก็ตามหลังจากตกอยู่ในสภาพน่ารันทดมาเนิ่นนาน ในที่สุดแสงแห่งความหวังก็ส่องมาถึง
เมื่อรั้วที่ล้อมรอบสวนหลังบ้านดังกล่าวเกิดพังลง จนทำให้มีคนภายนอกมองเข้าไปเห็นเจ้าตูบตัวนี้
โดยเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2560 เว็บไซต์เดอะโดโด้ เผยว่า
ชาวบ้านที่อยู่แถว ๆ นั้นต่างก็สะเทือนใจกับชะตากรรมของเจ้าพีนัท ดังนั้นพวกเขาจึงช่วยกันแจ้งเรื่องไปยังเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น
กับกระจายเรื่องราวของมันจนรู้มาถึงกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ HOPE for Erie
Animal Wellness ที่ทำงานเพื่อช่วยเหลือสุนัขในท้องที่อื่น

ในตอนนั้นเองที่
รัสเซลลีน สเตนบูห์เลอร์ ได้รับรู้เรื่องราวของเจ้าพีนัท เจ้าตูบวัย 3 ขวบตัวนี้
โดยเธอเผยว่า ลูกสาวของเธอเป็นอาสาสมัครของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามเนื่องจากพื้นที่ทำงานของกลุ่มอยู่ไกลจากบ้านของเจ้าพีนัทมาก
ทำให้พวกเขาไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือมันได้ ขณะที่บ้านของเธออยู่ห่างบ้านหลังนั้นไม่มากนัก
เธอจึงตัดสินใจจะไปดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับมันด้วยสองตาของเธอเอง
"ฉันออกไปดู เห็นพีนัทอยู่ในบ้านสุนัขโทรม ๆ
ที่หลังคามีรู พื้นไม้ก็เน่า มันไม่มีที่พักพิงที่เหมาะสม
แถมพื้นที่แถบนี้ก็มักจะเปียกแฉะ เจ้าพีนัทต้องนอนอยู่ในแอ่งน้ำเพราะมันออกไปไหนไม่ได้
เมื่อเห็นอย่างนี้ฉันก็เลยบอกกับตัวเองว่า ฉันจะขอเป็นคนดูแลมันเอง" รัสเซลลีน
กล่าว
จากนั้นรัสเซลลีนก็ได้เข้าไปพูดคุยกับเจ้าของพีนัท
ซึ่งทางครอบครัวก็ยอมรับว่าพวกเขาล่ามโซ่มันมาตลอดตั้งแต่ตอนที่พีนัทอายุไม่กี่เดือน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้เกิดจากเจตนาที่เลวร้าย เพียงแค่พวกเขาเห็นว่าการล่ามสุนัขไว้นอกบ้านถือเป็นเรื่องปกติของผู้คนในชนบทเท่านั้น
แต่เมื่อได้รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับพีนัทไม่ใช่สภาพที่เหมาะสมนัก พวกเขาก็ยอมที่จะเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ให้มันเล็กน้อย
พีนัทได้บ้านสุนัขหลังใหม่ ได้ชามข้าวใหม่
เชือกคล้องคอและปลอกคอใหม่ ซึ่งเชือกใหม่นี้มีความยาวพอให้มันออกไปนอนเล่นบนพื้นหญ้าได้
ทำให้มันดูมีความสุขอย่างมาก จากตูบตาเศร้ากลายเป็นตูบหน้ายิ้ม ต่างไปจากแต่ก่อนอย่างสิ้นเชิง
หลังจากนั้นรัสเซลลีนก็ยังคอยเข้าไปดูแลเจ้าพีนัทอยู่เป็นเวลา
2 เดือน เธอช่วยปลอบโยนจิตใจมัน และฝึกสอนให้มันรู้จักการเชื่อฟัง ซึ่งมันก็เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งยังมีความกระตือรือร้นที่จะเข้าไปหาทุกคนที่ยินดีมาใช้เวลาอยู่กับมันด้วย แม้ว่ามันจะยังคงถูกผูกล่ามไว้ที่สวน
แต่ชีวิตของมันก็ดีขึ้นมาก
และแล้วการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ดีกว่า ก็มาเยือนเจ้าพีนัทอีกครั้ง
เมื่อกฎหมายใหม่เกี่ยวกับสัตว์ ซึ่งจำกัดขอบเขตการล่ามโซ่สัตว์เลี้ยง
เริ่มมีผลบังคับใช้ในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐฯ ทำให้เจ้าของพีนัทที่มีบ้านอยู่ในพื้นที่ตัดสินใจยกสุนัขของพวกเขาให้อยู่ในความดูแลของ HOPE for Erie Animal Wellness เพราะพวกเขาคงไม่สามารถปรับวิถีการเลี้ยงดูมันได้

ในที่สุดเจ้าพีนัทก็ได้รับอิสระอย่างแท้จริง
ทางกลุ่มได้พามันไปอาบน้ำ เช็กร่างกาย และให้มันได้วิ่งเล่นในลานกว้างจนสมใจ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตใหม่ของสุนัขตัวนี้
มันได้ใช้ชีวิตอย่างเสรีได้ตามที่ใจต้องการเสียที ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้ว่าเจ้าพีนัทมีความสุขมากแค่ไหน
และเชื่อว่าจากนี้มันจะยิ่งมีความสุขมากขึ้นไปอีก หากทางกลุ่มค้นพบครอบครัวอุปถัมภ์ที่ยินดีจะมอบเวลาและความรัก
รวมถึงความอบอุ่นให้แก่มันไปอีกทั้งชีวิตจากนี้
https://pet.kapook.com/view178645.html