Tuesday, November 29, 2016

คนรักสัตว์เดือด จวกสวนสนุกญี่ปุ่น นำปลา 5,000 ตัว ฝังไว้ใต้ลานสเกตน้ำแข็ง



           คนรักสัตว์เดือด จวกยับสวนสนุก SpaceWorld ที่ญี่ปุ่น นำปลาและสัตว์น้ำกว่า 5,000 ตัว มาฟรีซ ฝังไว้ใต้ลานสเกตน้ำแข็ง

           วันที่ 27 สิงหาคม 2559 เว็บไซต์เดอะซัน มีรายงานว่า ขณะนี้กลุ่มคนรักสัตว์ได้ออกมาโจมตีสวนสนุก SpaceWorld ในเมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่นำปลาและสัตว์น้ำถึง 5,000 ตัว มาฝังไว้ในน้ำแข็งเพื่อประดับลานสเกตน้ำแข็ง "Aquarium of Ice" พร้อมมีการทวีตโปรโมทภาพดังกล่าวจากทางสวนสนุกด้วย


           โดยมีชาวเน็ตบางรายถึงกับบอกว่า "เราควรสนับสนุนลานสเกต ที่ให้เราวิ่งไปเหนือปลาเหล่านี้งั้นหรือ มันเป็นรสนิยมที่แย่มาก" ขณะที่บางคนชี้ว่า "คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ มันเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก นี่คือสิ่งที่คุณทำกับทั้ง 5,000 ชีวิตอย่างนั้นหรือ"


          อย่างไรก็ตามหลังเจอกระแสโจมตีหนัก ทาง SpaceWorld ก็ได้ออกมาแถลงว่า ปลาทุกตัวที่ถูกนำมาแช่แข็งนั้นเป็นปลาที่ตายแล้ว พวกมันเป็นปลาจากตลาดปลาที่ไม่อยู่ในสภาพเหมาะแก่การขายไปทำกิน สุดท้ายมันก็ต้องถูกทิ้งลงถังอยู่ดี อย่างไรก็ตามทางสวนสนุกขออภัยหากภาพดังกล่าวจะทำให้ผู้ใช้บริการรู้สึกไม่สบายใจ และจะลบโพสต์ที่เกี่ยวข้องทันที 











http://travel.kapook.com/view161601.html

Sunday, November 27, 2016

โชว์รูมรถหน้าซีด เถ้าแก่หอบเหรียญมาซื้อรถเงินสด นับเหรียญวนไปค่ะ !



         เถ้าแก่ร้านขายแป้งรายหนึ่งในประเทศจีน แบกถุงพร้อมเหรียญนับแสนเพื่อไปซื้อรถที่โชว์รูม ส่งผลให้พนักงานต้องมานั่งตรวจนับเป็นเวลายาวนานกว่า 12 ชั่วโมงถึงแล้วเสร็จ

          วันที่ 24 พฤศจิกายน 2559 เว็บไซต์เมโทร รายงานข่าว ชาวจีนรายหนึ่งหอบเงินเหรียญแสนหยวนเพื่อมาซื้อรถ ส่งผลให้พนักงานต้องใช้เวลานับเป็นเวลายาวนานกว่า 12 ชั่วโมง


          เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน โดยมีชายจีนแซ่กัวคนหนึ่ง ซึ่งทำธุรกิจขายแป้ง ได้ขับรถมายังโชว์รูมรถแห่งหนึ่งพร้อมกับครอบครัว เขาได้เเสดงความต้องการซื้อรถยนต์โตโยต้า พราโด้ ด้วยเงินสด ซึ่งก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งเมื่อถึงเวลาจะต้องชำระเงิน


          ปรากฏว่าชาวรายนี้แบกถุงพลาสติกกว่า 10 ถุง ซึ่งบรรจุด้วยเหรียญล้วน ๆ เป็นมูลค่ากว่าแสนหยวน มาเพื่อซื้อรถโดยเฉพาะ อย่างไรก็ดี เขาก็ได้นำธนบัตรมาจ่ายสมทบด้วย แต่แบงก์เหล่านั้นก็มีจำนวนเยอะเช่นกันเพราะเป็นเงิน 1 หยวนทั้งสิ้น

          จากเรื่องดังกล่าวส่งผลให้โชว์รูมต้องวุ่นวายเป็นการใหญ่ โดยต้องจัดพนักงานมากว่า 4 คน เพื่อมานั่งนับเหรียญเป็นการเฉพาะ และกว่าจะตรวจนับกันเสร็จก็ใช้เวลาไปกว่าครึ่งวัน หรือ 12 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ภาพจาก deltabreed.com
http://hilight.kapook.com/view/145712

Friday, November 25, 2016

เด็กเสิร์ฟได้ทิปหนักเกือบ 3 หมื่น หลังแอบคุยกับเพื่อนร่วมงาน แต่ลูกค้าบังเอิญได้ยิน



          เรื่องราวชวนซึ้งใจ พนักงานเสิร์ฟต่างแดนเล่าเรื่องความคิดถึงครอบครัวให้เพื่อนร่วมงานฟัง แต่ลูกค้าบังเอิญได้ยินเข้า ควักกระเป๋าวางทิปให้เกือบ 3 หมื่น 

          เมื่อไปใช้บริการที่ร้านอาหาร ลูกค้าปกติทั่วไปจะให้ทิปแก่พนักงานเป็นจำนวนเงินราว 10-20 เปอร์เซ็นต์ของค่าอาหาร ถือเป็นการตอบแทนบริการที่ได้รับ แต่พนักงานเสิร์ฟรายหนึ่งกลับได้ทิปจากลูกค้าเป็นจำนวนเงิน 750 ดอลลาร์ (ราว 26,750 บาท) ทั้ง ๆ ที่ค่าอาหารมื้อนั้นแค่ 122 ดอลลาร์เท่านั้น (ราว 4,352 บาท ) โดยเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2559 เว็บไซต์เมโทร ได้เผยแพร่เรื่องราวของพนักงานเสิร์ฟรายนี้ ที่ได้รับทิปตอบแทนให้บริการเป็นจำนวนที่มากมาย และสาเหตุเบื้องหลังของทิปก่อนนั้น มันมีคุณค่ามากกว่าจำนวนเงินหลายเท่า


          เบน เป็นชายหนุ่มชาวไอริชที่จากบ้านเกิด ข้ามน้ำข้ามทะเลมาทำงานไกลยังสหรัฐฯ เบนทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในรัฐเทกซัส ในวันนั้น เขาพูดคุยสารทุกข์สุกดิบกับเพื่อนร่วมงาน เล่าถึงครอบครัวของเขา บอกว่าคิดถึงบ้านมาก อยากพาแฟนสาวที่กำลังตั้งท้องของเขากลับไปเจอหน้าพ่อแม่ที่ไอร์แลนด์สักครั้ง แต่ไม่มีโอกาส
          ลูกค้าที่เบนให้บริการแอบได้ยินบทสนทนาของเขา จึงคิดว่าควรจะทำให้ฝันของพนักงานเสิร์ฟได้เป็นจริง ครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ เบนควรจะได้มีโอกาสพาแฟนกลับบ้านสักครั้ง 

          เมื่อถึงเวลาคิดเงิน เขาจึงตัดสินใจช่วยเหลือโดยการให้ทิปจำนวนมากเพื่อที่เบนจะได้มีค่าเดินทางกลับบ้าน และได้เขียนข้อความสั้น ๆ ไว้บนใบเสร็จรับเงินว่า..

          "ในช่วงวันหยุดนี้ หวังว่าคุณจะได้กลับไปไอร์แลนด์ เพื่อใช้เวลาที่มีค่ากับครอบครัว"

          ด้วยเงินจำนวนนี้ เบนจึงสามารถกลับไอร์แลนด์เพื่อไปพบหน้าครอบครัวของเขาได้ แทรีน แฟนสาวของเบนได้โพสต์เรื่องราวประทับใจที่เบนได้รับผ่านหน้าเฟซบุ๊กของเธอพร้อมกับรูปถ่ายใบเสร็จรับเงินฉบับนั้น เธอกล่าวว่า เบนได้ทิปก้อนใหญ่อย่างไม่คาดคิดและมันมีความหมายต่อพวกเขามาก 

          หลังจากนั้นโพสต์ของแทรีนได้กลายเป็นเรื่องราวที่ประทับใจผู้คนมากมาย มีคนกดไลค์โพสต์นี้มากกว่า 2.6 พัน ครั้งและถูกแชร์ไปเป็นจำนวนมาก ชาวเน็ตต่างก็แสดงความเห็นกันว่า โลกใบนี้ยังมีคนดี ๆ อยู่จริง

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Taryn Keith
http://hilight.kapook.com/view/145632

Wednesday, November 23, 2016

แผ่นดินไหวนิวซีแลนด์ ก่อให้เกิดพื้นที่สุดแปลก จากพื้นทะเลที่ถูกยกสูงพ้นน้ำ



           แผ่นดินไหวนิวซีแลนด์ ก่อให้เกิดพื้นที่สุดแปลก จากพื้นทะเลที่ถูกยกสูงพ้นน้ำ คาดจะยังคงอยู่อีกช่วงเวลาหนึ่งก่อนกลับคืนสู่ปกติ 

          วันที่ 18 พฤศจิกายน 2559 เว็บไซต์ sciencealert.com มีรายงานว่า นักธรณีวิทยาในประเทศนิวซีแลนด์ได้พบสภาพความผิดปกติบริเวณชายฝั่งของเมืองไคคูร่า เมื่อพื้นทะเลได้โผล่ขึ้นมาเหนือระดับน้ำทะเลในความสูงถึง 2 เมตร ภายหลังการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 7.8 ตามมาด้วยแผ่นดินไหวขนาด 6.1 ซึ่งมีความรุนแรงเช่นกัน


         แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวรุนแรงทั้ง 2 ครั้ง ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ตามแนวรอยเลื่อน Papatea Fault ที่อยู่นอกอ่าวไวปาปา โดยทำให้พื้นทะเลถูกยกขึ้นสูงอย่างรวดเร็วจนโผล่ขึ้นมาเหนือผืนน้ำ เผยให้เห็นสภาพของพืชใต้ทะเล ปะการัง และสิ่งมีชีวิตใต้ก้นทะเล ที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ตลอดแนวชายฝั่ง ซึ่งรายงานจากเว็บไซต์ theaustralian.com.au พบว่าแม้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนี้จะไม่รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน แต่พวกเขาได้ยินเสียงของน้ำทะเลที่ระบายออกจากแนวปะการังที่ยกขึ้นสูงอย่างชัดเจน 


          ด้าน โจซู มอนท์จอย นักธรณีวิทยาทางทะเล จากสถาบันวิจัยน้ำและบรรยากาศแห่งชาติของนิวซีแลนด์ ยอมรับว่าเขาไม่เคยพบเหตุเช่นนี้ในการเกิดแผ่นดินไหวมาก่อน และปรากฏการณ์นี้ก็เกิดขึ้นเร็วมากเพียง 90 วินาที ถึง 2 นาที หลังเกิดแผ่นดินไหวเท่านั้น ซึ่งตัวเขามองว่ามันเป็นผลจากการเคลื่อนที่ร่วมกันของรอยเลื่อนหลายรอยเลื่อนในเวลาเดียวกัน


        ทั้งนี้สภาพดังกล่าวน่าจะยังคงอยู่อีกสักช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาพปกติ ซึ่งนั่นก็น่าจะเพียงพอให้พวกเขามีโอกาสเข้าศึกษาพื้นที่ทางทะเล จากก้นทะเลที่ถูกยกขึ้นสูงเหล่านี้ 







ภาพจาก ทวิตเตอร์ @skyrize@TonkinTaylor@janinekrippner
http://hilight.kapook.com/view/145513

Tuesday, November 22, 2016

เด็กบนเขาสูงสุดทรหด ไต่บันไดขึ้น-ลงยอดเขาสูง 800 เมตร เพื่อไปโรงเรียน



         เด็กจีนบนยอดเขาสูงสุดทรหด ต้องลำบากเสี่ยงชีวิตไต่บันไดเชือกขึ้น-ลงเขาเพื่อไปเรียนหนังสือ สุดยินดีที่ไม่ต้องเสี่ยงอีกต่อไป เพราะมีการสร้างบันไดเหล็กให้ใหม่แล้ว 

         เด็ก ๆ ชาวเขาจากหมู่บ้านในเขตอี๋เหลียงซาน มณฑลเสฉวน ประเทศจีน เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากการที่พวกเขาต้องใช้ความมานะพยายาม ไต่บันไดเชือกลงจากผาสูงกว่า 800 เมตร เพื่อไปเรียนหนังสือ ซึ่งต้องใช้ความใจกล้าและเสี่ยงอันตรายอย่างมาก เพราะบันไดเชือกดังกล่าวทำมาจากหวายซึ่งไม่มีความทนทาน แต่ ณ ตอนนี้ จากการรายงานของสำนักข่าวไชน่า เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2559 นั้น ได้มีการสร้างบันไดเหล็กรุ่นใหม่แทนที่บันหวายของเดิมเรียบร้อยแล้ว 


         สำหรับหมู่บ้านของเด็ก ๆ เหล่านี้ ตั้งอยู่บนยอดเขาที่ความสูง 800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และด้วยความที่ตั้งอยู่ริมผาจึงได้ฉายาว่า "หมู่บ้านแห่งหน้าผา " เด็กในหมู่บ้านต้องปีนลงจากผาไปเรียนหนังสือยังโรงเรียนประถมที่อยู่ด้านล่าง และจะได้รับอนุญาตให้กลับบ้านเฉพาะช่วงวันหยุดยาวของทางโรเรียนเท่านั้น ทุกครั้งที่เดินทางต้องผ่านระยะทางที่ไกล สูง และอันตรายจึงต้องมีผู้ปกครองเดินไปด้วยทุกครั้ง


        สำหรับบันไดที่ใช้ปีนนั้นเป็นเพียงแค่บันไดที่ทำจากหวายเท่านั้น มีการรายงานว่า มีคนเสียชีวิตเพราะตกบันไดมาแล้วราว 7-8 คน และยังมีอีกหลายรายที่ได้รับบาดเจ็บ แต่เมื่อเรื่องราวของที่นี่ถูกเผยแพร่ออกไป โครงการสร้างบันไดเหล็กจึงได้เริ่มต้นขึ้น


         
บันไดเหล็กถูกเริ่มสร้างตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ใช้เหล็กราว 40 ตันเป็นวัสดุ อีกทั้งยังมีการทาสีกันสนิมเพื่อยืดระยะเวลาการใช้งาน โดยเมื่อเสร็จสมบูรณ์ เด็ก ๆ จะสามารถใช้บันไดเหล่านี้ได้ไปอีก 10-20 ปีเลยทีเดียว 


         เด็ก ๆ ราว 20 คนได้เริ่มใช้บันเหล็กนี้เป็นครั้งแรกเมื่อพวกเขาเดินทางกลับบ้านในวันหยุดปีใหม่ตามประเพณีของพวกเขา เด็กวัย 11 ขวบรายหนึ่งกล่าวว่า บันไดใหม่ปีนง่ายมาก มันทำให้เขารู้สึกปลอดภัยและมั่นใจมากเมื่อปีนมัน เด็กคนอื่น ๆ อีกหลายคนก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า บันไดใหม่ของพวกเขามันสวยมาก 


         ถึงแม้ว่าเด็ก ๆ จะยังต้องใช้มือจับราวและไต่บันไดอย่างระมัดระวัง แต่การที่ตัวบันไดมีการตั้งฉาก 60 องศากับหน้าผา ทำให้การไต่เป็นไปโดยง่ายขึ้นมาก เด็กทุกคนรู้สึกปลอดภัยและไม่กลัวร่วงอีกต่อไปแล้ว

         ทั้งนี้นอกจากการสร้างบันไดแล้วนั้น ในปีหน้าทางการจีนยังได้วางโครงการที่จะตัดถนนเข้าหมู่บ้าน ซึ่งจะใช้งบประมาณราว 35 ล้านหยวน หรือเกือบ 180 ล้านบาท แต่นับว่าเป็นเรื่องที่คุ้มค่า เพราะมันจะทำให้คุณภาพชีวิตของชาวเขาในหมู่บ้านแห่งนี้ดีขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว 

ภาพจาก news.jinghua.cn
http://education.kapook.com/view161226.html

Sunday, November 20, 2016

มังกี้ (Monkey) แมวดำหน้าแปลก มีเขี้ยวยาวเหมือนแวมไพร์



         มังกี้ (Monkey) แมวดำมีเขี้ยวยาวเหมือนแวมไพร์ หน้าตาเหมือนตัวละครในหนังสยองขวัญ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นสำหรับทาสแมวแล้ว กลับดูน่ารักน่าชังจนกลายเป็นเซเลบแมวไปอีกตัว 

          พบกับเจ้า มังกี้ (Monkey) อดีตแมวดำจรจัดที่เกือบโดนรถชน แต่แล้วก็รอดมาได้เพราะสาวสวยที่มีชื่อว่า นิโคล เรนซี (Nicole Rienzie) ช่วยเอาไว้ ซึ่งหากใครได้เห็นหน้าค่าตาตอนนี้ต้องบอกว่าเธอใช้โปรแกรมตัดต่อรูปของเจ้ามังกี้แน่ ๆ เพราะมีเขี้ยวที่ดูเหมือนแวมไพร์เอามาก ๆ ทั้งที่จริงแล้วเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้กับแมวทุกตัว แต่จะพบจำนวนน้อยเท่านั้นเอง 


          เดิมทีเจ้ามังกี้เป็นแมวจรจัด ที่ นิโคล เรนซี (เจ้าของคนปัจจุบัน) เกือบจะขับรถชนขณะเดินทางกลับบ้าน สภาพตอนนั้นของเจ้ามังกี้ ผอมโซ ขาดสารอาหาร มีแมลงรุมตอม และมองไม่เห็นทางเนื่องจากลืมตาไม่ได้ จึงได้เก็บมันกลับมาดูแลที่บ้านและตั้งใจว่าจะประกาศหาบ้านให้มันเมื่อร่างกายของมันแข็งแรง แต่เมื่อได้อยู่กับมันไปสักพัก นิโคลก็เปลี่ยนใจเลี้ยงไว้ซะเอง หลังจากที่ได้รับการดูแลจนร่างกายแข็งแรงดี เจ้ามังกี้ก็ร่าเริงขึ้น กระโดดโลดเต้นไปมา เจ้านายมันจึงตั้งชื่อให้มันว่า มังกี้ (Monkey) เพราะมันซนเหมือนกับลิงนั่นเอง


          นอกจากนี้ยังทำให้นิโคลพบความแปลกประหลาดของเจ้าตัวนี้ด้วยว่า มันมีเขี้ยวหน้าไม่เหมือนกับแมวทั่วไป เพราะดูเหมือนเขี้ยวของแวมไพร์เอามาก ๆ หลังจากที่เขี้ยวค่อย ๆ ยาวขึ้นเรื่อย ๆ นิโคลจึงพามันไปหาหมอเนื่องจากเกรงว่าจะเป็นอันตราย แต่โชคดีที่ไม่ได้เป็นอย่างที่นิโคลกังวล เพราะสัตวแพทย์บอกว่าเป็นภาวะปกติของแมวแต่จะเกิดขึ้นได้น้อย ไม่ได้เป็นอันตรายแต่อย่างใด







ขอขอบคุณข้อมูลจาก lovemeow และ boredpanda 
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก อินสตาแกรม monkandbean

Thursday, November 17, 2016

เหมียวส้มนั่งเศร้า ถูกเหมียวนักเลงโดดกระทำชำเราแฟนสาวต่อหน้า ช่างหยามใจนัก




            ให้ภาพเล่าเรื่อง เมื่อเจ้าเหมียวหนุ่มแดนมังกรถูกแมวนักเลงหยามจิตใจ โดดมากระทำชำเราแฟนสาวต่อหน้า ทำเอานั่งหงอยไปเลย ชาวเน็ตแห่ให้กำลังใจกันใหญ่

          เว็บไซต์ Bastille Post เผยภาพพร้อมเรื่องราวของเจ้าเหมียวส้มจากแดนมังกรที่น่าสงสาร ในขณะที่มันกำลังนั่งคลอเคลียอยู่กับเจ้าเหมียวลายเสือแฟนสาว อย่างสุดสวีทหวานอยู่ที่ริมทางนั้น จู่ ๆ ก็มีเจ้าเหมียวนักเลงโผล่มาขัดจังหวะ แล้วกระโดดคร่อมกระทำชำเราแฟนสาวต่อหน้าต่อตา จนเจ้าเหมียวส้มก็ได้แต่ยืนมอง ก่อนจะมานั่งหมดเรี่ยวแรงอยู่ข้างถนน

  
             โถ ๆ เจ้าเหมียวส้ม... ช่างเป็นภาพบาดตาซะเหลือเกิน ชาวเน็ตต่างเห็นใจเข้ามาให้กำลังใจกันยกใหญ่เลยทีเดียว บอกว่ามันช่างโหดร้ายสำหรับเหมียวส้มจริง ๆ เลย สู้ต่อไปนะ









ภาพจาก hk.apple.nextmedia.com
http://pet.kapook.com/view160919.html

Tuesday, November 15, 2016

แทบช็อก คนงานก่อสร้างจ๊ะเอ๋อนาคอนดาในป่า งานนี้ตกใจทั้งคนงู (มีคลิป)




อนาคอนดายักษ์หลับบนต้นไม้อยู่ดี ๆ มีคนงานไปจ๊ะเอ๋โดยไม่ตั้งใจ  จนตกใจตื่น งานนี้งูตกใจ คนเจอก็ผงะ ผวาทั้งคนและงู

        เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2559 สำนักข่าวเดลี่เมล รายงานว่า คนงานก่อสร้างในเวียดนามพบงูอนาคอนดาขนาดยักษ์ขณะที่พวกเขากำลังหักร้างถางพงเพื่อจัดการพื้นที่ งูดังกล่าวนอนห้อยตัวอยู่บริเวณต้นไม้ต้นหนึ่ง และคาดว่าเสียงรบกวนจากคนงานทำให้มันตื่นจากการหลับลึก

  
             หลังจากงูตื่น คนงานรายหนึ่งก็ได้ลากตัวมันลงมาข้างล่าง จากในคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่า ขณะที่งูนอนขดอยู่กับพื้นนั้น ลำตัวของมันใหญ่พอ ๆ กับท่อนซุงที่วางอยู่ข้าง ๆ และคาดว่าตัวมันมีความยาวราว 6 เมตร
  
            หลังจากลากงูลงมาได้ พวกเขาต้องใช้ที่ตักของรถขุดดิน กดตัวมันไว้เพื่อไม่ให้หนี อย่างไรก็ตาม สำหรับชะตากรรมของเจ้างูนี้ คาดว่าจะจบไม่สวย เพราะคนงานน่าจะต้องฆ่ามันเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มันหลบหนีไปทำอันตรายแก่ชาวบ้านต่อไป

ภาพจาก Viralvidz
http://hilight.kapook.com/view/145120