Saturday, April 29, 2017

คู่รักอวดภาพเซลฟี่สุดหวาน แต่สิ่งที่อยู่ในกระจกด้านหลังทำเอาทุกสายตาผงะแรง !




         หนุ่ม-สาวคู่รักโพสต์รูปถ่ายเซลฟี่คู่สุดหวานโชว์โซเชียล แต่ทุกคนกลับโฟกัสสิ่งที่อยู่ในกระจกด้านหลัง ที่ทำเอาทุกสายตาต้องหลอนไปตามกัน

           เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2560 เว็บไซต์มิเรอร์ เปิดเผยภาพที่กำลังเป็นกระแสไวรัลแชร์ต่อกันมากมายในโลกออนไลน์ขณะนี้ ซึ่งดูเผิน ๆ อาจจะดูเหมือนภาพของคู่รักทั่ว ๆ ไปที่ได้ถ่ายเซลฟี่มาโชว์ความหวานของทั้งคู่ผ่านทางโซเชียล แต่หลังจากที่หลาย ๆ คนได้เห็นก็มีอันต้องผงะตกใจ จากอารมณ์ที่ดูจะโรแมนติกในภาพ กลายเป็นสยองขวัญขึ้นมาทันตา

 
           โดยในภาพดังกล่าว หนุ่ม-สาวคู่รักได้ยืนโอบกันพร้อมกับใช้ถ่ายเซลฟี่ โดยทั้งคู่ก็ยิ้มแย้มให้กับกล้องตามปกติ แต่เมื่อโฟกัสไปที่กระจกด้านหลังของทั้งคู่ ก็เห็นเป็นใบหน้าของผู้หญิงหันไปกับกระจกด้วยเช่นกัน ซึ่งตรงนั้นแท้จริงแล้วควรจะต้องเป็นผมด้านหลังของเธอ เห็นแล้วชวนให้รู้สึกหลอนแบบสุด ๆ

           โดยหนุ่มเจ้าภาพดังกล่าว เป็นผู้นำภาพนี้มาโพสต์ลงทวิตเตอร์ส่วนตัว พร้อมกับแคปชั่นขำ ๆ ว่า "ผมรักแฟนของผม ถึงแม้ว่าเธอจะมี 2 หน้าก็ตาม" โดยคำว่า 2 หน้า หนุ่มรายนี้ไม่เชิงว่าบอกตรง ๆ แต่ใช้คำว่า "gemini" เป็นภาษาลาติน แปลว่า ฝาแฝด ซึ่งเป็นคำเดียวกับที่ใช้เป็นชื่อของราศีเมถุน (Gemini) หรือกลุ่มดาวคนคู่

  
          หลังจากหนุ่มรายนี้ได้โพสต์ภาพตัดต่อขำ ๆ ลงไปในทวิตเตอร์ส่วนตัว @extracis เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2560 เพียงวันเดียว ก็มีผู้ชื่นชอบพากันเข้าไปกดถูกใจมากกว่า 8 หมื่นครั้ง และรีทวีตแชร์ต่อกันมากถึง 3.8 หมื่นครั้งเลยทีเดียว 

ภาพจาก ทวิตเตอร์ @extracis
https://hilight.kapook.com/view/152653

Saturday, April 22, 2017

เปิดชีวิตเวทนาของตูบ ถูกล่ามโซ่-ตากแดดจนป่วยหนัก ไร้คนดูแลหลังเจ้าของติดคุก




         เปิดเรื่องราวชีวิตของ ไวโอเล็ต ตูบแสนเศร้าที่มีชะตาชีวิตน่าสงสาร ถูกล่ามโซ่ตากแดดมาตั้งแต่เล็ก ใช้ชีวิตอย่างน่าสงสารจนเจ็บป่วย แต่สุดท้ายฟ้าเมตตามีคนช่วยเหลือ กลายเป็นตัวใหม่ที่มีความสุข แถมมีเพื่อนตุ๊กตาคู่ใจ ไม่เหงาแล้วค่ะ !

           ใครก็ตามที่เห็น เจ้าไวโอเล็ต สุนัข เพศเมียสีขาวอายุ 2 ปี ตัวนี้ต่างก็ต้องสะเทือนใจด้วยกันทั้งสิ้น ไวโอเล็ตมีแววตาที่เจ็บปวด เศร้าโศกและหงอยเหงา มันถูกล่ามด้วยโซ่เส้นใหญ่หนาหนักมาตลอดชีวิตของมันจนขนรอบลำคอเปลี่ยนเป็นสีดำ ไวโอเล็ตใช้ชีวิตอย่างน่าเวทนาไร้การเหลียวแลอยู่ในกรงไม้แคบ ๆ ที่ตั้งอยู่กลางทุ่งโล่งแดดจ้าของเมืองมิเกล รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา ชีวิตของเจ้าหมาที่น่าสงสารดำเนินอยู่แบบนี้จนกระทั่งผู้หญิงคนหนึ่งมาพบเจอมัน

  
         จากการรายงานของเว็บไซต์เดอะโดโด้ เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2560 เผยว่า ผู้หญิงคนดังกล่าวขับรถผ่านไปแถวนั้นโดยความบังเอิญ ทันทีที่เธอเห็นมันเธอก็รู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจ เธอติดต่อไปยังสถานสงเคราะห์สัตว์นอร์ทอีสเทิร์น นิวเม็กซิโกเพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือ เมื่อทีมเจ้าหน้าที่เดินทางมายังที่อยู่ของเจ้าไวโอเล็ตก็พบว่าไม่ได้มีเพียงแค่ไวโอเล็ตเท่านั้นถูกล่ามอยู่ที่ที่แห่งนี้ แต่ยังมีอีก 5 ตัวถูกล่ามไว้ ทุกตัวอยู่ในสภาพถูกปล่อยปละละเลยอย่างมาก ก่อนหน้านี้พวกมันเคยมีเจ้าของที่เคยเลี้ยงดู แต่เขาถูกจับติดคุก จึงไม่สามารถมาเลี้ยงดูเจ้าหมาที่น่าสงสารเหล่านี้ได้

 
           ด้วยความที่รัฐนิวเม็กซิโกมีกฎหมายคุ้มครองสัตว์เลี้ยงที่ค่อนข้างเข้มงวด สัตว์เลี้ยงไม่สามารถถูกล่ามโซ่ทิ้งไว้ลำพัง โดยที่ไม่มีเจ้าของคอยดูแล เจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์จึงได้ทำการตัดโซ่เหล็กหนาหนัก แล้วพาเหล่าหมาที่น่าสงสารไปดูแล มูลนิธิเอ็นเอ็มด็อก (NM DOG) ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยอาสารับเจ้าตูบทุกตัวรวมทั้งไวโอเล็ตไปเลี้ยงดู 

 
           เหล่าพี่น้องตูบถูกพาไปยังโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด ไวโอเล็ตมีอาการที่ย่ำแย่ ผิวหนังของเจ้าตูบที่น่าสงสารตัวนี้ถูกแดดเผาจนแดงแสบไปทั้งตัว  อีกทั้งยังองทนทุกข์ทรมานจากอาการฟลายสไตรค์ นั่นคือโรคที่เกิดจากแมลงวันมาฝังไข่ไว้กับผิวหนัง ตัวอ่อนเติบโตเป็นหนอนกัดกินเนื้อ แต่สิ่งที่แย่ที่สุดคือสภาพจิตใจของมัน

 
           "ไวโอเล็ตอยู่ในสภาพตื่นกลัวและหวาดผวาอยู่ตลอดเวลา ถ้ามีใครสักคนเข้าไปไกล ๆ มันแล้วยกมือขึ้น หรือโบกมือไปมาเร็ว ๆ แล้วล่ะก็ ไวโอเล็ตจะหมอบต่ำ ขดตัวกลัวอย่างหวาดกลัว ราวกับว่ากลัวว่ามันจะถูกตี ถูกทำร้าย ฉันนึกภาพไม่ออกเลยว่ามันเคยผ่านอะไรมาบ้าง แต่ถ้ามีใครพูดจาดี ๆ กับมัน มันก็ตอบสนองนะคะ" แองเจลา สแตลล์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเอ็นเอ็มด็อก เปิดเผยถึงเรื่องราวของเจ้าไวโอเล็ต

           แต่เมื่อได้รับการรักษาจนหาย สภาพร่างกายของไวโอเล็ตก็ฟื้นฟูขึ้นจนกลายเป็นตูบแข็งแรง สภาพจิตใจของมันก็เช่นกัน ตอนนี้ไวโอเล็ตเริ่มคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ รอบตัว และเริ่มที่จะเชื่อใจผู้คนรอบข้างบ้างแล้ว

  
          แองเจลาเชื่อว่าไวโอเล็ตน่าจะถูกล่ามโซ่มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อยจนกระทั่งโต มันจึงไม่เคยมีช่วงเวลาได้วิ่งเล่นเหมือนลูกหมาตัวอื่น ๆ แต่ตอนนี้ไวโอเล็ตสามารถทำแบบนั้นได้แล้ว มันมีนิสัยเหมือนกับลูกหมาตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่ง ซุกซน ชอบวิ่งเล่น และตอนนี้ไวโอเล็ตมีเพื่อนคู่หูแล้ว นั่นคือตุ๊กตาแร็คคูน

           "ไวโอเล็ตเป็นหมาที่น่ารักและนิสัยดีมากค่ะ มันอ่อนโยนกับเจ้าหน้าที่ทีมงานทุกคน ไวโอเล็ตชอบตุ๊กตาแร็คคูนของมันมาก ชอบม้วนตัวพลิกไปพลิกมากับผ้าห่ม และก็ชอบออกไปวิ่งเล่นข้างนอกค่ะ ตอนนี้ไวโอเล็ตได้เจอโลกใหม่แล้ว มันไม่ถูกล่ามอีกต่อไปแล้ว"

           
           "คนที่จะรับไวโอเล็ตไปเลี้ยงดูต้องเป็นคนที่ใส่ใจมันจริง ๆ มันต้องการคนที่รักมันเหมือนกับสมาชิกครอบครัวคนหนึ่ง และต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างมาก เลี้ยงอย่างทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ข้างนอกบ้านไม่ได้เลยค่ะ เพราะผิวหนังของไวโอเล็ตไวต่อแดด มันจะแสบง่ายมาก" แองเจลากล่าว

            แองเจลาเล่าอย่างติดตลกว่า ไวโอเล็ตติดเจ้าตุ๊กตาแร็คคูนตัวนี้มาก มันจะเอาอุ้งเท้าตบ ๆ เขี่ยตุ๊กตา แล้วก็ทำท่าหลบ เล่นเหมือนกับเด็กที่เพิ่งได้มีของเล่นเป็นครั้งแรก ตอนนี้ไวโอเล็ตยังคงฟื้นตัวอยู่ แองเจลาคิดว่าอีกสักพักใหญ่กว่ามันจะพร้อมสำหรับการรับไปเลี้ยงดู อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ที่รู้ ๆ คือทุกวันนี้ไวโอเล็ตมีแร็คคูนเป็นเพื่อน ตอนนี้ไม่เหงาและมีความสุขมาก ๆ เลยค่า

ภาพจาก NMDOG
https://pet.kapook.com/view170000.html

Sunday, April 9, 2017

ตื่นเต้นทั้งลำ ! ลูกเรือ Turkish Airline ทำคลอดผู้โดยสารบนเครื่อง ปลอดภัยทั้งแม่และเด็ก




       โมเมนต์แห่งความตื่นเต้น ผู้โดยสารสาวเจ็บท้องคลอดขณะเดินทางบนเครื่องบิน ลูกเรือเร่งเข้าช่วยเหลือ สุดท้ายคลอดสำเร็จ แม่ลูกปลอดภัย ยินดีกันถ้วนหน้า

        
เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2560 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ทีมลูกเรือประจำสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ (Turkish Airlines) ประสบความสำเร็จในการทำคลอดให้กับผู้โดยสารสาวรายหนึ่ง หลังจากเธอเกิดเจ็บท้องคลอดระหว่างการเดินทาง เด็กทารกเป็นเพศหญิงสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยทั้งแม่และเด็ก สร้างความตื่นเต้นยินดีกันไปทั่วทั้งลำ 


         เหตุการณ์อันน่าตื่นเต้นดังกล่าวเกิดขึ้นบนเครื่องโบอิ้ง 737 ของสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ ที่ออกเดินทางจากสนามบินวากาดูกูในเมืองโกนากรี เมืองหลวงของประเทศกินี มุ่งหน้าสู่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ทุกอย่างบนเครื่องบินปกติเรียบร้อยดี จนกระทั่งเมื่อเครื่องบินไต่ระดับที่ความสูง 42,000 ฟุตเหนือพื้นดิน ผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งก็เริ่มแสดงอาการผิดปกติ

         ผู้โดยสารคนนี้มีชื่อว่า นาฟี ดิยาบี้ เธอตั้งครรภ์ได้ 28 สัปดาห์แล้ว นาฟีมีอาการเจ็บท้องคลอดลูก ลูกเรือที่เดินผ่านไปผ่านมาสังเกตเห็นท่าทีของเธอจึงได้รีบเข้าไปช่วยเหลือท่ามกลางความลุ้นระทึกของผู้โดยสาร จนในที่สุด นาฟีก็สามารถคลอดลูกสาวตัวน้อยออกมาได้สำเร็จ สร้างความยินดีกันถ้วนหน้า

         เด็กทารกตัวน้อยถูกตั้งชื่อว่า คาดิจู เครื่องบินแวะลงจอดที่สนามบินเมืองบูรกินาฟาโซเพื่อให้แม่และเด็กได้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะดูอ่อนเพลียแต่ก็ปลอดภัยดี ทารกน้อยคาดิจูก็สุขภาพแข็งน่ารักมากอีกด้วย

         ทั้งนี้สายการบินส่วนใหญ่จะอนุญาตให้ผู้โดยสารที่มีตั้งครรภ์สามารถเดินทางขึ้นเครื่องได้ปกติเหมือนผู้โดยสารทั่วไปจนกระทั่งอายุครรภ์ 36 สัปดาห์ โดยผู้โดยสารที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 28 สัปดาห์ขึ้นไป จำเป็นต้องแจ้งให้สารการบินทราบ และต้องไปตรวจเช็กร่างกายจากแพทย์ เพื่อขอกเอกสารระบุวันกำหนดคลอดก่อนเดินทาง

ภาพจาก ทวิตเตอร์ @TurkishAirlines
https://hilight.kapook.com/view/151696

Saturday, April 8, 2017

คุณพ่อโพสต์ภาพลูกน้อยสุดหวาดเสียวจนถูกด่าหนัก แต่พอรู้เหตุผลแล้วน้ำตาซึม..




     คุณพ่อโพสต์ภาพชุดของรูปน้อยวัยขวบเศษแบบสุดหวาดเสียว จนโดนต่อว่าหนักทั่วโลกออนไลน์ แต่หลังเจ้าตัวได้มีโอกาสเผยเบื้องหลังและที่มา ทำเอาน้ำตาซึมไปตามกัน

 
      เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 เว็บไซต์มิเรอร์ เผยเรื่องราวของ สตีเฟ่น โครวลีย์ คุณพ่อของหนูน้อยฮันน่า วัย 1 ขวบ 6 เดือน จากเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ โดยเขาโพสต์ชุดภาพของลูกสาวตัวน้อยในแบบสุดหวาดเสียวแชร์ลงโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นภาพให้จับพวงมาลัยขับรถ ถือมีดปลายแหลมในครัว เกาะราวระเบียง ปีนบันได นั่งบนราวสะพานริมแม่น้ำ และภาพอื่น ๆ ที่สุดหวาดเสียว

  
           ภายหลังจากรูปภาพถูกนำไปแชร์ก็จนเกิดเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างหนักหน่วง หลายคนต่อว่าที่เขาเอาลูกมาเสี่ยงอันตรายเช่นนี้ แต่นั่นก็เป็นเพราะไม่ทราบว่า แท้จริงแล้ว สตีเฟ่นซึ่งมีอาชีพเป็นนักออกแบบ และเขาแค่ใช้โปรแกรมตัดต่อภาพเพื่อสร้างรอยยิ้มให้แก่ผู้ที่ชม แต่ทั้งนี้ก็มีบางส่วนที่ทราบและชื่นชมผีมือของเขา

  
            อย่างไรก็ดี สตีเฟ่น ไม่ได้เพียงแต่นำภาพลูกสาวของตัวเองมาตัดต่อเล่น ๆ ขำ ๆ แต่มีความจริงที่ชวนสะเทือนใจซ่อนอยู่ นั่นก็คือ หนูน้อยฮันน่า ป่วยด้วยโรคผิดปกติเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันชนิดหายาก ที่เรียกว่า ฮีโมฟาโกไซติก ลิมโฟฮีสติโอไซโตซิส (hemophagocytic lymphohistiocytosis) ตั้งแต่ที่หนูน้อยอายุได้เพียง 4 เดือน ทำให้ต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลเป็นเวลานานถึง 6 เดือน ด้วยการทำเคมีบำบัดแต่ก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งเหลือแค่วิธีสุดท้ายวิธีเดียวที่จะรักษาได้คือ ต้องทำการปลูกถ่ายไขกระดูก แต่ก็ต้องรอผู้มาบริจาคไขกระดูกที่เข้ากันได้


      สตีเฟ่น เผยว่า เขาและลูกสาวไม่มีโอกาสที่จะได้ใช้ชีวิตด้วยกันแบบพ่อ-ลูกปกติในช่วง 1 ปีแรก แต่หลังจากการทำเคมีบำบัด ลูกสาวของเขามีอาการดีขึ้นและพอสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ เขาก็อยากจะใช้ชีวิตกับลูกให้มีความสุข และสร้างรอยยิ้มให้มากที่สุด

  
            แม้ว่าจะออกจากโรงพยาบาลมาแล้ว แต่หนูน้อยฮันน่าก็ยังคงต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กอาการและให้ยาอยู่เรื่อย ๆ  จนในที่สุด สตีเฟ่น ก็ได้ใช้โอกาสที่รูปของเธอกลายเป็นที่สนใจนี้ ขอรับบริจาคไขกระดูกให้ลูกสาว จนในที่สุดก็ได้รับไขกระดูกที่มีความเข้ากันได้กับหนูน้อยฮันน่า เป็นของชาวเยอรมันซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ จนสามารถช่วยชีวิตหนูน้อยไว้ได้



ภาพจาก  Steec / Reddit
https://hilight.kapook.com/view/151634