Friday, December 30, 2016

นาทีที่รอคอย... ยายวัย 64 ให้กำเนิดลูกน้อย แม้ต้องเผชิญความกดดันแต่ก็ขอสู้ถึงที่สุด




         คุณแม่จีนวัย 64 แสนยินดี ให้กำเนิดลูกชายตัวน้อยได้สำเร็จ เผยเคยสูญเสียลูกคนเดียวมาก่อนหน้านี้ ด้านโซเชียลแชร์ต่อภาพโมเมนต์ประทับใจ พร้อมร่วมอวยพร

          วันที่ 29 ธันวาคม 2559 เว็บไซต์เดอะสเตรทไทม์ส มีรายงานข่าวที่สร้างความประทับใจอย่างมากแก่ชาวโซเชียลของจีน เมื่อผู้ใช้เว่ยป๋อรายหนึ่งได้เผยภาพของหญิงชราวัย 64 ปี ที่ได้มีโอกาสเป็นแม่คนอีกครั้งสมใจหวัง ภายหลังจากที่ต้องสูญเสียลูกเพียงคนเดียวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งภาพของคุณแม่ผมสีดอกเลาที่หันไปมองลูกน้อยอย่างแสนยินดี ได้สร้างความตื้นตันแก่ผู้พบเห็น พวกเขาต่างยกย่องให้กับความกล้าหาญของเธอ พร้อมมอบคำอวยพรให้แก่พวกเธออย่างล้นหลาม

  
          ด้านคุณหมอเถิงหง ผู้ดำเนินการผ่าคลอดให้คุณแม่สูงวัย ที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยจี๋หลิน เปิดเผยว่า การให้กำเนิดครั้งนี้เกิดจากการทำเด็กในหลอดแก้ว ก่อนนำตัวอ่อนที่ปฏิสนธิแล้วมาฝังภายในโพรงมดลูกของคุณแม่ เนื่องจากตัวคุณแม่นั้นมีอายุมากแล้วทั้งยังเคยสูญเสียลูกเพียงคนเดียวมาก่อนหน้านี้ ทำให้เธอต้องเผชิญกับความกดดันทั้งกายและใจ แต่ทุกครั้งที่เธอมาตรวจก็มักจะเผยรอยยิ้มและความอ่อนโยน เธอเป็นคนที่กล้าหาญพอจะเผชิญหน้าต่อความเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในระหว่างการตั้งครรภ์

          ทั้งนี้การตั้งครรภ์ในสตรีที่มีอายุมากแล้วมักจะมีปัญหาด้านสุขภาพ โดยพวกเขาพบว่าคุณแม่เกิดโรคเบาหวานในสตรีตั้งครรภ์ ตอนสัปดาห์ที่ 28 จากนั้นในสัปดาห์ที่ 30 ของการตั้งครรภ์ก็พบภาวะรกเกาะต่ำ ซึ่งอาจทำให้เกิดการตกเลือดและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ พวกขาจึงแนะนำให้เธอแอดมิทเพื่อการดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งเธอก็ไว้วางใจและทำตามที่เราบอก จนกระทั่งอาการของเธอดีขึ้นเราจึงให้เธอกลับไปพักที่้บ้านได้

         และแล้ววันที่ทุกคนเฝ้ารอก็มาถึง คุณแม่วัย 64 ปี ได้เข้ารับการผ่าคลอดเมื่อวันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมา ให้กำเนิดทารกเพศชายที่สุขภาพแข็งแรง ท่ามกลางความยินดีของทุกคน โดยคุณหมอเถิงหงเผยว่า แม้ตัวคุณแม่จะเหนื่อยจากการผ่าคลอด แต่เธอก็ยังเอื้อมมือมาสัมผัสใบหน้าของเขา พร้อมกล่าวคำขอบคุณสำหรับการทำงานอย่างหนักในครั้งนี้ ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก ราวกับเส้นประสาทที่ตึงเครียดมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ได้ผ่อนคลายลงในทันใด

          คุณหมอเถิงหงยังได้กล่าวอีกว่า แม่และเด็กแข็งแรงดีทั้งคู่ พวกเขาสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ในไม่กี่วันหลังคลอด ทั้งนี้ที่การคลอดผ่านไปด้วยดีนั้นเป็นผลการจากดูแลอย่างเข้มงวดของผู้เป็นแม่ และการมีอารมณ์ที่ดีเสมอ ซึ่งตัวเขาบอกเลยว่านี่เป็นคุณแม่สูงวัยที่สุดเท่าที่เขาเคยทำคลอดให้ และอาจเป็นคุณแม่สูงวัยที่สุดในประเทศ

ภาพจาก news.sina.com.cn
http://hilight.kapook.com/view/147205

Thursday, December 29, 2016

คุณพ่อน่ารัก ทำของเล็ก ๆ น้อย ๆ ปลอบใจลูกสาว แต่ได้ผลเกินคาด ใครเห็นเป็นยิ้มตาม




         คุณพ่อตั้งใจทำของขวัญวันศริสต์มาสชิ้นน้อยให้กระรอก เพื่อปลอบใจลูกสาวหลังครอบครัวเพิ่งผ่านพ้นเรื่องร้ายมา แม้จะเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็ทำให้หลาย ๆ คนยิ้มไปตามกัน

          เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2559 เว็บไซต์ Bored Panda ได้นำเสนอเรื่องราวน่ารัก ๆ ชวนยิ้มของครอบครัวเชสเนเย่ โดยหลังจากทางครอบครัวเพิ่งจะเผชิญกับเหตุการณ์ร้าย ๆ มา จึงไม่ปราถนาจะจัดงานเฉลิมฉลองในเทศกาลวันศริสต์มาสที่ผ่านมา แต่ถึงอย่างนั้น คุณพ่อพอลก็กลัวว่าลูซี่จะเศร้าเกินไป จึงทำสิ่งเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ขึ้นเพื่อให้กำลังใจลูกสาว

  
         โดยคุณพ่อพอลได้ทำห่อของขวัญชิ้นเล็ก ๆ ขึ้นมา เพื่อเป็นของขวัญวันศริสต์มาสชิ้นพิเศษให้แก่เจ้ากระรอกตัวน้อย สัตว์เลี้ยงของที่บ้าน พอมันได้ไปก็เอาแต่กัดและแทะด้วยความสนอกสนใจ จนทำให้ลูซี่คลายความเศร้าไปได้ช่วงหนึ่ง

 
          สำหรับครอบครัวเชสเนเย่ อาศัยอยู่ที่ชานเมืองของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นบริเวณที่เต็มไปด้วยต้นไม้ คุณพ่อพอลเผยว่า "พวกเราปลูกทั้งถั่วบราซิล ถั่วลิสง อัลมอนด์ ซึ่งเราก็เอาถั่วที่ปลูกนี่แหละมาทำเป็นของขวัญให้เจ้ากระรอก"  

 
          ลูซี่ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพลงทวิตเตอร์ของเธอ ไปเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยบอกว่า "ไม่คิดว่าเจ้ากระรอกจะตลกและทำให้ยิ้มได้ขนาดนี้" ไม่น่าเชื่อว่าหลังจากผ่านไปได้เพียง 3 วัน ล่าสุด (28 ธันวาคม) มีชาวโซเชียลเข้าไปกดถูกใจมากกว่า 2.2 แสนครั้ง และรีทวิตต่อกันถึง 9.1 หมื่นครั้ง


http://hilight.kapook.com/view/147147

Saturday, December 24, 2016

หาชมยาก ช่างภาพบังเอิญพบชนเผ่าที่โลกไม่รู้จักในป่าลึก กับวิถีชีวิตราวมนุษย์โบราณ




เปิดภาพถ่ายสุดเอ็กคลูซีพ หลังช่างภาพบังเอิญพบชนเผ่าในป่าลึกอะเมซอน ประเทศบราซิล ที่ไม่ติดต่อกับโลกภายนอกและไม่มีใครรู้จัก เสมือนไร้ตัวตน ใช้ชีวิตราวกับมนุษย์ในยุคโบราณ

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2559 เว็บไซต์เว็บไซต์เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก (National Geographic) ซึ่งเป็นนิตยสารที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ได้เผยสุดยอดภาพถ่ายสุดเอ็กคลูซีพหาชมได้ยาก เผยใช้เห็นชนเผ่าที่ไม่เป็นที่รู้จัก ซึ่งแยกตัวออกไปอยู่ในพื้นที่ห่างไกลในป่าลึกอะเมซอน ชายแดนประเทศบราซิลติดกับประเทศเปรู โดยช่างภาพนามว่า ริคาร์โด สตักเกิร์ต (Ricardo Stuckert) เป็นผู้ไปพบและถ่ายภาพชุดนี้มาได้ หลังจากนั่งเฮลิคอปเตอร์บินต่ำสำรวจ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

  
ริคาร์โด เผยถึงความรู้สึกที่ได้เห็นชนเผ่าเหล่านี้ว่า "ผมรู้สึกราวกับว่า ผมเป็นช่างวาดภาพในยุค 100 ปีก่อน มันเป็นความรู้สึกที่น่าอัศจรรย์มาก เมื่อคิดว่าในศตวรรษที่ 21 เช่นนี้ที่มีมนุษย์สามารถเดินทางไปยังดวงจันทร์แล้ว ยังมีผู้คนที่ไม่ติดต่อกับโลกภายนอก ใช้ชีวิตอาศัยเช่นเดียวกับมนุษย์ยุคโบราณ"
โจส คาร์ลอส เมเรลเลส ผู้เชี่ยวชาญที่ศึกษาเกี่ยวกับชนเผ่าพื้นเมืองบราซิลมานานกว่า 40 ปี และได้นังเฮลิคอปเตอร์ไปกับทีมสำรวจด้วย เผยว่า ในภาพถ่ายที่ริคาร์โดถ่ายมาได้นั้น ยังได้แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมการเพนท์สีร่างกายและการตัดผม ที่แม้ว่าดูเผิน ๆ แล้วจะดูเหมือนว่าตัดเป็นรูปแบบเดียวกัน แต่หากลองสังเกตดี ๆ แล้วจะพบว่า แต่ละคนมีสไตล์ที่แตกต่างกัน

  
นอกจากนี้ โจส ยังได้เผยว่า ชาวชนเผ่าที่ได้เห็นพวกเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขานั้น มีท่าทีสงสัยมากกว่าที่จะหวาดกลัว โดยลักษณะภายนอกที่เห็นพวกเขานั้น ค่อนข้างดูอุดมสมบูรณ์ มีการปลูกพืช อาทิ ข้าวโพด มันสำปะหลังและกล้วย ใช้อาวุธล่าสัตว์แบบโบราณ อาศัยโดยการปลูกกระท่อมอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ๆ เรียกว่า maloca ซึ่งมีประชากรราว 80-100 คน ซึ่งเมื่อร่วมทั้งชนเผ่าอาจจะมีมากถึง 300 คน
ชนเผ่ากลุ่มนี้อาศัยอยู่กันอย่างปลีกวิเวกสงบเงียบ แตกต่างจากชนเผ่าพื้นเมืองบราซิลตามแนวชายแดน ที่มักจะมีการลักลอบตัดไม้อย่างผิดกฎหมาย ขุดทอง และลักลอบขนยาเสพติด ไม่มีการติดต่อกับโลกภายนอกใด ๆ ซึ่งหากพวกเขาหายตัวไปจากโลก ก็ไม่สามารถมีใครล่วงรู้ได้เลย

 
ภาพถ่ายภาพหนึ่งที่น่าสนใจ แสดงให้เห็นชายชนเผ่ารายหนึ่งที่กำลังออกล่าสัตว์หาอาหารโดยใช้ธนู ได้เล็งปลายคันศรมาทางเฮลิคอปเตอร์ของทีมสำรวจ นั่นอาจเป็นสัญญาณหมายถึง "ปล่อยให้พวกเราอยู่อย่างสงบ อย่ามารบกวน"







 
http://hilight.kapook.com/view/146938

Sunday, December 18, 2016

แผงหนามกันแมวต้องไร้ค่า เมื่อเจอเจ้าเหมียวเหล่านี้ คิดว่าเหมียวจะแคร์เหรอ ??




          ชมภาพน่ารักที่ชวนปวดหัวของเหล่าเจ้าเหมียวญี่ปุ่นที่แสนจะ "โนสน โนแคร์" เจอมนุษย์เอาแผงหนามมากั้นไม่ให้เข้าใกล้ แต่แทนที่จะหนีไปไกล ๆ กลับมานอนชิวกันบนแผงหนามซะงั้น ไม่เกรงใจกันเล้ยย

            แผงหนามกันแมว คือสิ่งประดิษฐ์ที่คิดค้นมาเพื่อสำหรับนำไปติดตั้งยังพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อกันไม่ให้แมวเข้าถึงได้และช่วยป้องกันข้าวของจากเล็บอันแหลมคมของบรรดาแมว ๆ โดยในประเทศญี่ปุ่น เราจะสามารถพบเห็นแผงหนามแบบนี้ติดตั้งอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นในสนามหญ้า บนกำแพง ข้างรั้ว บนพื้น บริเวณใกล้ ๆ กับเฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่เอาไว้วางอาหาร 

 

  

             นอกจากแผงหนามเหล็กที่ติดตั้งถาวรแล้ว ยังมีแผงหนามในรูปแบบพลาสติกที่สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปในราคาเพียง 100 เยนเท่านั้น (ราว 30 บาท) ซึ่งสะดวกสบายพร้อมใช้ทันที วิธีการใช้งานก็ง่ายดาย เมื่อใดก็ตามที่อยากกันแมวออกห่าง ก็นำมาวางไว้ เท่านั้นจบ


           งานนี้เห็นทีต้องคิดค้นสิ่งประดิษฐ์กันแมวแบบใหม่แล้วล่ะ และแผงหนามกันแมวก็คงจะต้องเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นแผงหนามล่อแมว เพราะนอกจากจะไล่แมวไม่ได้แล้ว ยังกลายเป็นที่นอนสุดสบายของเหล่าเจ้าเหมียวไปแล้วเรียบร้อย




















 

http://pet.kapook.com/view162763.html