Friday, October 28, 2016

อึ้งสุด ๆ หญิงถูกรางวัล 1 ล้าน หลังลองเสี่ยงโชคให้สามีดู บอกคนเราใช่จะเฮงกันง่าย ๆ




          หญิงอเมริกันอึ้งสุด ๆ ซื้อตั๋วลุ้นรางวัลมาขำ ๆ กะโชว์ให้สามีเห็นว่าคนเราใช่จะถูกรางวัลกันง่าย ๆ แต่สุดท้ายกลับดวงดี ชนะรางวัล 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

           เรียกว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์อย่างถึงที่สุด เมื่อ เกล็นดา แบล็กเวลล์ ผู้อาศัยในรัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐฯ หลังจากที่เธอตั้งใจซื้อตั๋วขูดลุ้นรางวัลจากร้านค้ามาเพื่อพิสูจน์ให้สามีได้เห็นว่า ลาภลอยนั้นไม่ได้มาถึงมือกันง่าย ๆ แต่ไม่คาดคิดเลยว่าตั๋วที่ซื้อขำ ๆ ใบนี้จะนำโชคก้อนใหญ่มาให้เธอเข้าจริง ๆ

           โดยเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2559 เว็บไซต์เมโทร รายงานว่า ก่อนหน้านี้เกล็นดาได้โวยวายใส่สามี บอกว่าเขาจะเสียเงินเปล่า หลังจากที่เขาขอให้เธอซื้อตั๋วขูดลุ้นรางวัลให้ 2 ใบ จากนั้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเธอจึงลองซื้อตั๋วราคา 10 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 350 บาท) มาจากร้านค้า กะจะแสดงให้เขาเห็นว่าคนเรานั้นใช่จะถูกรางวัลกันได้ง่าย ๆ

          แต่แล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (22 ตุลาคม) เกล็นดาก็มีอันต้องกลืนน้ำลายตัวเอง หลังผลปรากฏว่าตัวเองกลายเป็นผู้ชนะรางวัล 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 35 ล้านบาท) โดยจะได้รับเงินไปเหนาะ ๆ 415,503 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 14.5 ล้านบาท) หลังหักภาษี

          ทั้งนี้แม่บ้านวัย 57 ผู้โชคดี เปิดเผยว่า แม้เธอจะต้องกลืนน้ำลายตัวเอง แต่มันก็คุ้มสุด ๆ เธอมีความสุขมาก ๆ และจากนี้ปัญหาเรื่องเงินของครอบครัวเธอก็จะหมดไป พวกเธอสามารถซื้อบ้านของตัวเองได้ แถมยังนำเงินส่วนที่เหลือมาเป็นค่าเทอมให้หลานทั้ง 2 คนได้อีกด้วย แต่แม้ว่าตั๋วใบนี้จะนำโชคก้อนใหญ่มาให้เธอ แต่เธอก็คงจะไม่เสี่ยงโชคด้วยวิธีนี้อีก

ภาพจาก educationlottery.org
http://hilight.kapook.com/view/144201

Monday, October 24, 2016

วิจารณ์สนั่น พ่อจับลูกชายวัย 12 หมั้นเด็กหญิงวัย 11 ประกาศจะให้แต่งงานกัน




         วิจารณ์สนั่น พ่อจับลูกชายวัย 12 หมั้นเด็กหญิงวัย 11 ประกาศจะให้แต่งงานกัน ด้านนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ์เด็กและสตรี ประณามว่าไม่ต่างจากอาชญากรรม ริดรอนสิทธิเด็กหญิง

          วันที่ 22 ตุลาคม 2559 เว็บไซต์วอชิงตันโพสต์ มีรายงานถึงเหตุซึ่งกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากประเทศอียิปต์ เมื่อ นาสเซอร์ ฮัสสัน ชายผู้มั่งมีรายหนึ่งได้ออกมาจัดงานเลี้ยงฉลองสุดหรู จัดเต็มทั้งนักร้องและการแสดงระบำหน้าท้อง พร้อมประกาศข่าวดีให้แขกผู้ร่วมงานทุกคนได้รู้ว่า ลูกชายของเขา โอมาร์ วัย 12 ขวบ กำลังจะแต่งงานกับ กาห์รัม วัย 11 ขวบ ผู้เป็นญาติ

อย่างไรก็ตามทั้งแขกที่เข้าร่วมงานและผู้เป็นพ่อของเด็กชายได้ยืนยันต่อหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่า งานฉลองที่จัดขึ้นนั้นไม่ใช่งานแต่งงานแต่อย่างใด เป็นเพียงงานหมั้นของทั้งคู่เท่านั้น

          ในขณะที่ประเทศอียิปต์มีกฎหมายห้ามไม่ให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี แต่งงานกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพบว่ามีผู้ปกครองที่จับเด็กมาแต่งงานกันอยู่อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะพื้นที่ชนบท โดยข้อมูลจากองค์กรยูนิเซฟ พบว่ามีผู้หญิงชาวอียิปต์ 17% ที่แต่งงานตั้งแต่ก่อนอายุ 18 ปี

          สำหรับกรณีของ โอมาร์ และ กาห์รัม ได้กลายมาเป็นข่าวใหญ่ที่หนังสือพิมพ์พากันประโคมข่าว และลงรูปของเด็กชายในชุดสูท มีเด็กหญิงที่แต่งหน้าจัดเต็ม สวมชุดสีขาวและรองเท้าส้นสูง นั่งอยู่เคียงข้าง ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเด็กและสตรีที่ออกมาแจ้งเรื่องดังกล่าวไปยังหน่วยงานเพื่อแม่และเด็กของรัฐบาล ทั้งยังยื่นคำร้องให้ทางการเข้ามาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว พร้อมประณามว่าการที่ผู้ปกครองจับผู้เยาว์มาแต่งงานกันนั้น ไม่ต่างจากอาชญากรรม

          โดย เรดา เอลดานโบกี หัวหน้าศูนย์ให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายของสตรี ชี้ว่า การที่มีงานหมั้นเช่นนี้ ย่อมนำไปสู่การแต่งงานของเด็ก ๆ ทั้งคู่ ซึ่งนั่นจะทำให้เด็กหญิงถูกริดรอนโอกาสทางการศึกษา การเติบโต และถูกแยกออกจากสังคม

  
          ด้าน นาสเซอร์ พ่อของโอมาร์ ให้สัมภาษณ์กันหนังสือพิมพ์ในท้องถิ่นว่า ตัวเขานั้นไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะนี่เป็นเพียงงานหมั้นของลูก ๆ แถมยังอ้างว่าโอมาร์รักกาห์รัม โอมาร์มักจะบอกผู้เป็นพ่อว่าจะแต่งงานกับเธอเมื่อโตขึ้น ทั้งคู่คบหากันมาเป็นปีแล้ว มีความรู้สึกที่ดีต่อกันและกัน ทั้งยังต้องการที่จะหมั้นกัน ตัวเขาจึงจัดงานหมั้นนี้ให้ก่อนที่จะมีผู้ชายคนอื่นมาชิงขอกาห์รัมแต่งงานไปเมื่อเด็กหญิงโตขึ้น แต่ทั้งคู่จะแต่งงานกันก็ต่อเมื่ออายุถึงเกณฑ์แล้ว

          ทั้งนี้สำหรับปัญหาการแต่งงานของผู้เยาว์ พบได้อย่างแพร่หลายในประเทศทางตะวันออกกลาง เอเชีย รวมถึงในทวีปแอฟริกาแถบทะเลทรายซาฮาร่า โดยอียิปต์นับเป็นหนึ่งในประเทศที่พบปัญหานี้อย่างมาก ซึ่งภาครัฐพยายามหาทางเพื่อหยุดปัญหาดังกล่าว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีกลุ่มคนในชนบทที่เลือกจะให้เด็กที่แต่งงานกันแล้วจดทะเบียนสมรสเมื่ออายุถึงเกณฑ์ เพื่อเลี่ยงบทลงโทษตามกฎหมาย ส่งผลให้ลูกของเด็กเหล่านี้ที่คลอดออกมายังไม่มีสูติบัตร ไม่ได้รับการรับรองทางกฎหมาย จนกว่าพ่อแม่ของพวกเขาจะจดทะเบียนสมรสกันแล้ว

ภาพจาก wuzupnaija.com
http://hilight.kapook.com/view/143954

Thursday, October 13, 2016

ในอีก 15 ปี มนุษย์จะสามารถขึ้นไปอยู่บนดาวอังคารได้หรือไม่?




เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ประธานาธิบดีบารัค โอบามายืนยันว่า สหรัฐฯมุ่งเป้าที่จะส่งมนุษย์ไปดาวอังคารในช่วงปี 2030 และส่งพวกเขากลับโลกอย่าง ปลอดภัย

เขาให้ความเห็นลงในบทความของสำนักข่าว CNN ว่าเราตั้งเป้าหมายที่จะมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ด้านอวกาศหน้าใหม่ของสหรัฐฯไว้อย่างชัดเจน โดยจะส่งมนุษย์เดินทางไปดาวอังคารในช่วงปี 2030 และส่งพวกเขากลับโลกอย่างปลอดภัยด้วยความคาดหวังว่าจะสามารถอยู่อาศัยบนนั้นได้เป็นเวลานาน"

เขาเพิ่มเติมว่า พวกเขาไม่ได้เข้าสู่ห้วงอวกาศเพื่อเยือนเฉยๆ แต่ไปเพื่ออยู่อาศัย โดยมีจุดประสงค์เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ให้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยใหม่ที่มีความเห็นขัดแย้งกับเขา ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวค้นพบว่านักบิวอวกาศที่เดินทางไปดาวอังคารนั้นอาจจะเสี่ยงต่อการเสียหายของสมองในระยะยาว หรือแม้แต่เป็นโรคสมองเสื่อมได้ เนื่องจากการสัมผัสกับรังสีคอสมิกที่อยู่ในอวกาศ
Charles Limoli ศาสตราจารย์ภาควิชารังสีรักษาและมะเร็งวิทยา ในสถาบันการแพทย์ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเออร์ไวน์ (UCI) กล่าวว่านี่ไม่ใช่ข่าวที่ดีสำหรับนักบินอวกาศที่จะถูกส่งไปอยู่บนดาวอังคารเป็นเวลา 2-3 ปี

เนื่องจากสภาพแวดล้อมในอวกาศจะก่อให้เกิดอันตรายต่อนักบินอวกาศ การสัมผัสกับอนุภาคเหล่านี้อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนระบบประสาท ซึ่งอาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางไปอวกาศ และจะคงอยู่เป็นเวลานาน โดยจะส่งผลให้การทำงานต่างๆของร่างกายเกิดบกพร่อง เป็นโรคความจำเสื่อม โรคกังวล โรคซึมเศร้า และมีผลต่อการตัดสินใจ ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้อาจจะยาวนานไปตลอดชีวิต


โพสท์โดย: SpiderMeaw
http://board.postjung.com/993780.html

Wednesday, October 12, 2016

น่ารักเชียว เหมียวน้อยรอดเฮอริเคนแมทธิว ถูกจับใส่สเวตเตอร์จิ๋วให้อบอุ่น




          เจ้าแมวเหมียวตัวน้อยรอดชีวิตจากเฮอริเคนแมทธิวถล่มอเมริกา เจ้าหน้าที่ดูแลเหมียวเลยจับใส่สเวตเตอร์น้อย DIY ทำจากถุงเท้า นอกจากจะให้ความอบอุ่นแล้วยังทำเจ้าเหมียวน่ารักขึ้นอีกระดับ

           รายงานจากเว็บไซต์เมโทรของอังกฤษ ระบุว่า เจ้าเหมียวน้อยหน้าตาใสซื่อตัวนี้ถูกคนใจดีช่วยอุ้มมันไปไว้ที่โรงพยาบาลสัตว์แบนฟิลด์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา ระหว่างที่เฮอริเคนแมทธิวกำลังแผลงฤทธิ์ พายุพัดแรงและฝนกระหน่ำ ซึ่งอาจทำให้เจ้าเหมียวได้รับอันตรายได้ 

 
           หลังจากเจ้าเหมียวถูกส่งไปไว้ในที่ปลอดภัยอย่างโรงพยาบาลสัตว์แล้ว ปรากฏว่าผู้ช่วยสัตวแพทย์ไม่เพียงแต่จะช่วยดูแลมันเป็นอย่างดีเท่านั้น แต่ยังทำให้มันเป็นลูกแมวที่น่ารักน่าเลี้ยงสุด ๆ ด้วยการสวมสเวตเตอร์ DIY ให้มันด้วย โดยสเวตเตอร์จิ๋วเพื่อความอบอุ่นตัวนี้ ทำขึ้นง่าย ๆ จากถุงเท้านี่เอง

  
            ตอนนี้เจ้าเหมียวน้อยกลายเป็นแมวเหมียวที่ดังในโลกออนไลน์ไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่มีสาวรายหนึ่งไปซื้อแท็กติดแมวของเธอที่ร้านเพ็ทช็อป ซึ่งอยู่ที่เดียวกับโรงพยาบาลสัตว์แห่งนี้ แล้วเธอก็ได้ไปพบกับเจ้าเหมียวตัวนี้เข้าขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังอุ้มมันมาโชว์ผู้สนใจรับแมวไปเลี้ยงรายหนึ่ง เธอจึงไม่พลาดที่จะแชะภาพความน่ารักนี้มาโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ดังกล่าว

http://pet.kapook.com/view158665.html

Monday, October 10, 2016

คลิปช็อก ! แก๊งเด็กสาววัย 13-16 ลวงเพื่อนมาทารุณเตรียมฆ่า-ขุดหลุมเตรียมฝัง




         แก๊งเด็กสาววัย 13-16 ปี ชาวบราซิล ก่อเรื่องชวนช็อก จับเด็กหญิงวัย 14 ปี มาทารุณเตรียมฆ่า ขุดหลุมไว้เตรียมนำร่างลงไปฝังพร้อม หลังหึงโหดเพราะเหยื่อแอบไปพบแฟนหนุ่ม

          เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2559 เว็บไซต์เดลี่เมล เผยคลิปวิดีโอชวนสลด แก๊งวัยรุ่นหญิงวัยเพียง 13-16 ปี ได้ลวงเด็กหญิงวัย 14 ปี มามัดมือมัดเท้า ก่อนจะร่วมกันทำร้ายร่างกายสารพัด ทั้งใช้ไม้ยาวฟาดและมีดขนาดใหญ่ฟันเข้าไปที่แผ่นหลังของเหยื่อ ก่อนจะถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้ประจาน โดยการทำร้ายนี้ดำเนินไปยาวนานกว่า 4 ชั่วโมง !!

          จากรายงานระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งในเมืองตรินดาเด รัฐโกยาส ประเทศบราซิล เด็กวัยรุ่นหญิงอายุ 13-16 ปี จำนวน 4 คน ได้ลวงเพื่อนร่วมโรงเรียนวัย 14 ปี มาที่สวนหลังบ้าน จากนั้นพวกเธอก็จัดการชำระแค้นที่เหยื่อเริ่มมีความสัมพันธ์ไม่ชอบมาพากลกับแฟนหนุ่มของหนึ่งในสมาชิกแก๊ง โดยใช้วิธีการทุบตีทารุณอย่างป่าเถื่อน

  
          เด็กหญิงผู้เป็นเหยื่อเปิดเผยต่อตำรวจว่า บ้านหลังที่เกิดเหตุมีการจัดงานวันเกิดของหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นสาว โดยมีแฟนหนุ่มของเธอคนนั้นอยู่ด้วย และหลังงานเลิก แก๊งนี้ก็ได้นัดเธอมาเจอที่บ้าน

          เด็กหญิงเล่าว่า หลังจากที่แก๊งเด็กหญิงลวงเธอมายังสวนหลังบ้านแล้ว พวกเธอก็มัดมือมัดเท้าเธอ แล้วเปิดฉากทำร้าย ก่อนจะชี้ไปยังหลุมตื้น ๆ หลุมหนึ่ง แล้วบอกว่านั่นคือหลุมฝังศพเธอ พวกเธอเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนั้นเธอคิดว่าเธอกำลังจะตายแน่ ๆ

  
        แต่แล้วโชคก็เข้าข้างเธออยู่บ้าง เพราะหลังจากที่แก๊งเถื่อนทำร้ายเธอจนเลือดตกยางออก เปรอะเปื้อนเนื้อตัวของทุกคน พวกเธอก็ผละออกไปเพื่อล้างเลือดทั้งแก๊ง เธอจึงอาศัยจังหวะนี้หนีเอาตัวรอดออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในละแวกนั้น จนรอดชีวิตมาได้

          เหตุการณ์นี้สร้างความช็อกให้กับตำรวจอย่างมาก เพราะแก๊งวัยรุ่นเถื่อนกลุ่มนี้จงใจจะฆ่าเหยื่อเลยทีเดียว เพียงแต่มาผิดแผนเพราะความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย โดยหนึ่งในแก๊งสารภาพว่า ตั้งใจจะฆ่าเหยื่อจริง แต่พอรู้ว่าเหยื่อหนีไปก็เซ็งมาก

 
          ทั้งนี้ตำรวจเผยว่าแก๊งวัยรุ่นเถื่อนรู้จักกับเหยื่อมานาน และทั้งหมดก็เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันด้วย

          อย่างไรก็ดี ล่าสุดตำรวจได้จับกุมเด็กวัยรุ่นผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่า แต่เนื่องด้วยยังเป็นเยาวชนจึงถูกส่งตัวไปไว้ที่สถานพินิจเป็นเวลา 3 ปี ขณะที่หลังจากคลิปวิดีโอสุดสลดนี้ถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ แก๊งวัยรุ่นแก๊งนี้ก็ได้รับคำขู่ฆ่าเป็นจำนวนมาก


ภาพจาก yaNoe
http://hilight.kapook.com/view/143193