ช็อก ชายลืมกุญแจห้อง โรยตัวปีนเข้าทางหน้าต่าง แต่พลัดตกตึกดับ

               นาทีสุดช็อก ชายลืมกุญแจห้อง โรยตัวลงมาจากยอดตึกเพื่อเข้าทางหน้าต่างห้อง แต่ดันพลาดตกตึกเสียชีวิต ไม่มีโอกาสได้เข้าห้องอีกเลย

                เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2559 เว็บไซต์ไลฟ์ลีค เผยคลิปวิดีโอสุดช็อก ชายชาว เอกวาดอร์วัย 52 ปี ลืมกุญแจห้องไว้ในอพาร์ตเม้นท์ที่ล็อกแล้วเรียบร้อย เลยพยายามจะปีนเข้าห้องทางหน้าต่าง ปรากฏว่าปฏิบัติการครั้งนี้ทำให้เขามาถึงจุดจบของชีวิต เพราะเกิดพลัดตกตึกระหว่างพยายามโรยตัวเข้าไปในห้อง เสียชีวิตทันที

                เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศสเปน ชายซึ่งไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อวัย 52 ปี เกิดลืมกุญแจห้องไว้ในห้องของเขา ที่อยู่ชั้น 4 จึงไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านให้ช่วยผูกเชือกที่ดาดฟ้าของตึก เพื่อที่เขาจะโรยตัวลงมาเข้าทางหน้าต่างห้อง

                การโรยตัวลงมาที่หน้าต่างเพื่อนบ้านชั้น 5 เป็นไปอย่างราบรื่นดี ชายรายนี้ไม่มีทีท่าว่าจะตกลงมาแต่อย่างใด กระทั่งเขาโรยตัวลงมาอีกชั้น เพื่อจะไปหยุดที่หน้าต่างห้องชั้น 4 ของตัวเอง ปรากฏว่าเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเขาพลัดตกตึกลงมาเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาชาวเมืองที่กำลังถ่ายคลิ ปเหตุการณ์จากอีกตึกหนึ่ง

                เมื่อคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกนำมาเผยแพร่บนโลกออนไลน์ มันก็ได้สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย โดยหลายความเห็นบอกว่า ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีใครบนโลกใบนี้เอาชีวิตไปเสี่ยงได้มากขนาดนั้น มันเป็นเรื่องที่อันตรายจริง ๆ

ภาพจาก CeoWorldTv

http://hilight.kapook.com/view/132203

อุรุกวัยสร้างสะพานวงกลมข้ามทะเลสาบ ให้ขับรถช้าลง-ชมวิวนานขึ้น

          อุรุกวัยผุดไอเดียเพื่อการดื่มด่ำบรรยากาศสร้าง "สะพานวงกลม" ให้คนขับรถช้าลง และสัมผัสวิวธรรมชาติที่สวยงามได้นานขึ้น

          เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2559 เว็บไซต์ Bored Panda เผยภาพสะพานดีไซน์เก๋ที่เชื่อมเมืองโรชา และเมืองมัลโดนานโด ทางชายฝั่งตอนใต้ของอุรุกวัย เข้าไว้ด้วยกัน แม้สะพานเชื่อมนี้จะเป็นถนน 2 เลนเหมือนปกติ แต่ความพิเศษอยู่ที่การถูกออกแบบให้เป็นรูปวงกลมสวยงามดังที่เห็น

              สถาปนิกผู้ออกแบบ คือ ราฟาเอล วิโนลี เขาเผยว่า สะพานแห่งนี้ใช้ระยะเวลาก่อสร้างไปทั้งสิ้น 1 ปีเต็ม และเพิ่งเสร็จสิ้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยสะพานวงกลมแห่งนี้ถูกสร้างเพื่อใช้แทนสะพานเดิมที่เป็นเพียงสะพานแพข้าม

                 ส่วนเหตุผลสำคัญที่ออกแบบให้สะพานแห่งนี้เป็นรูปวงกลม เป็นเพราะว่า เพื่อต้องการให้ผู้ที่สัญจรผ่านขับรถช้าลง จะได้มีโอกาสชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามรอบ ๆ สองข้างทางได้นานขึ้น

                   แต่งานนี้แม้จะดูงดงามอย่างไร ก็มีเสียงคัดค้านและวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยว่าสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เพราะทิวทัศน์เช่นนี้ ไม่ว่าจะทำเป็นทางตรงหรือทางกลม ก็สามารถดื่มด่ำได้ไม่ต่างกันอยู่แล้ว

ภาพจาก Rafael Vinoly Architects, Jimmy Baikovicius

http://hilight.kapook.com/view/132134

มิตรภาพสุดซึ้ง หมาแปลกหน้าบาดเจ็บหนักทั้งคู่ แต่คอยดูแลกันไม่ห่าง

         เผยเรื่องราวซึ้ง ๆ ของ 2 สุนัขที่ได้รับบาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่พอเจอหน้ากันครั้งแรกก็เหมือนถูกชะตา คอยดูแลกันและกันไม่ยอมห่างเลย   

          หมาที่ ไม่รู้จักกันมาก่อนอาจจะเห่าหรือกัดกันเป็นเรื่องปกติ มิตรภาพของหมาคู่นี้เลยกลายเป็นเรื่องแปลก เพราะแม้จะบาดเจ็บทั้งคู่จนต้องนอนรักษาที่ศูนย์ช่วยเหลือ Second Chance Rescue NYC Dogs ในนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่หมาทั้ง 2 ตัวกลับเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยทั้งที่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน อีกทั้งต่างฝ่ายต่างก็ดูแลกันอย่างดีด้วย

          หมาตัวแรกชื่อ โอลาฟ หมาพันธุ์อิงลิช มาสทิฟฟ์ ตัวโตที่มีอาการติดเชื้อรุนแรงเพราะโดนงูกัด ในขณะที่เจ้ามารายห์เป็นเพียงลูกหมาตัวน้อยที่มีอายุเพียง 6 สัปดาห์ แต่ต้องมาอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือเพราะอุณหภูมิในร่างกายต่ำกว่าปกติ หลังโดนทิ้งอยู่ที่ลานจอดรถในคืนคริสต์มาส อีฟ ที่อากาศหนาวจัด

          แม้ จะต่างที่มาแต่ก็กลายเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็วตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า อาจเป็นเพราะหมาทั้งคู่มีสภาพจิตใจที่อ่อนแอ ต้องการความรักความอบอุ่น ต่างฝ่ายก็คงจะเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปให้กันได้ดี เลยทำให้สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว

เจ้าโอลาฟ โดนงูพิษกัดที่ขาและมีอาการติดเชื้ออย่างรุนแรงจนต้องผ่าตัด

เจ้ามารายห์ ลูกหมาที่โดนทิ้งในลานจอดรถท่ามกลางอากาศอันหนาวเย็นในคืนคริสต์มาส อีฟ จนทำให้อุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ

โอลาฟตัวโตคอยให้กำลังใจเจ้ามารายห์ตัวน้อยไม่ห่าง

แม้จะไม่เคยเห็นหน้าแต่มั่นใจว่าต่างคนต่างก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกันแน่นอน

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Second Chance Rescue NYC Dogs

http://pet.kapook.com/view139721.html

หลายประเทศตื่นเสียงลึกลับจากฟากฟ้า ปริศนาที่ยังหาที่มาไม่ได้

         ชาวบ้านหลายเมืองจากเนเธอร์แลนด์ โมร็อกโก และอังกฤษ ตื่นเสียงประหลาด Sky trumpets คล้ายเสียงทรัมเป็ตจากฟากฟ้า ดังขึ้นในอากาศอย่างหาที่มาไม่ได้ แห่อัดคลิปเสียงแชร์ในโลกออนไลน์

          ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ผู้คนในบางพื้นที่ของโลกได้เผชิญปรากฏการณ์พิศวงที่ยังหาคำอธิบายแน่ชัดไม่ ได้ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน โดยจากรายงานของ เว็บไซต์ SOTT เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2559 ระบุว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ชาวเนเธอร์แลนด์จากหลายเมืองทั่วประเทศได้ยินเสียงประหลาดจากฟากฟ้า

          Martijn Mastenbroek จากเมือง Pijnacker ในจังหวัดทางตอนใต้ของประเทศ เผยว่า ในเช้าของวันที่ 10 มกราคม อยู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงประหลาดนั้นขึ้นมา ฟังดูคล้าย ๆ เสียงทรัมเป็ต ตอนแรกคิดว่าเป็นเสียงมาจากเครื่องซักผ้าในบ้าน แต่ก็ไม่ใช่ เสียงนั้นมาจากข้างนอกบ้านจริง ๆ

เสียงประหลาดที่เนเธอร์แลนด์ จาก Redouan Bodouaou


เสียงประหลาดที่เนเธอร์แลนด์ จาก Jeff Afca 

          ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 3 มกราคม ชาวบ้านในเมืองคาซาบลังกา, อะกาดีร์, เทงเกียร์ และอีกหลายเมืองในโมร็อกโก ต่างก็ได้ยิน "เสียงประหลาดที่ดังมาจากฟากฟ้า" นี้ ด้วยเช่นกัน และในวันที่ 4 มกราคม ชาวอังกฤษจากเมืองบริสตอล ทางตอนใต้ของประเทศ ก็ได้ยินเสียงทรัมเป็ตพิศวงดังกล่าว และได้บันทึกวิดีโอเสียงที่ได้ยินแชร์ลงในเว็บไซต์ยูทูบ

เสียงประหลาดที่โมร็อกโก จาก المغربTv


เสียงประหลาดที่โมร็อกโก จาก Mou Rad


เสียงประหลาดที่บริสตอล ประเทศอังกฤษ จาก Stevie B

          ทั้งนี้ เว็บไซต์ SOTT ได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า เสียงทรัมเป็ตพิศวงดังกล่าว น่าจะเกิดขึ้นจากคลื่นวิทยุความถี่ต่ำมาก ที่ถูกรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของโลกและรอบ ๆ โลก จนสัญญาณความถี่ขยายช่วงมากขึ้น จนกลายเป็นคลื่นเสียง เกิดเป็นเสียงประหลาดที่ผู้คนต่างได้ยินกัน

          อย่างไรก็ดี แม้จะยังไม่สามารถฟันธงถึงสาเหตุที่แน่ชัดของเสียงนี้ได้ แต่จากรายงานข่าวที่เคยมีก่อนหน้า รวมถึงเรื่องเล่าและบันทึกทางประวัติศาสตร์ ก็เคยมีการเขียนถึงปรากฏการณ์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันนี้ คือ ได้ยินเสียงทรัมเป็ต, เสียงโหยหวน, เสียงกังวานของเครื่องโลหะ, เสียงจากฟากฟ้า...ที่ไม่สามารถหาต้นตอที่มาของเสียงได้

ภาพจาก sott.net

http://hilight.kapook.com/view/131790

ฮาลั่น ! ผู้โดยสารเขียนโน้ตวอนแอร์โฮสเตสประกาศหาคนตดไม่หยุด แนะหาหมอเถอะ

(ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล)

 

         สุดจะอดทนไหว ผู้โดยสารเขียนโน้ตวานแอร์โฮสเตสช่วยประกาศที ใครที่แอบตดบนเครื่องไม่หยุด กรุณาไปพบแพทย์ด่วน !

          วันที่ 17 มกราคม 2559 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานเรื่องฮาสุดจะคาดไม่ถึง เมื่อมันเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางบนเครื่องบิน โดยสมาชิกเว็บไซต์ reddit ชื่อ Garwee20 ได้เล่าเรื่องราวของคุณแม่ที่เป็นแอร์โฮสเตสไปประสบพบเจอมา เมื่อมีใครไม่รู้บนเครื่อง แอบตดไม่หยุดหย่อน จนมีคนพยายามขอร้องให้เธอช่วยประกาศเตือนที แล้วยังมีภาพหลักฐานความฮามายืนยัน เป็นกระดาษทิชชูที่มีข้อความเขียนไว้ว่า

          "ฉันไม่แน่ใจว่าคุณจะประกาศให้ได้ไหม แต่ถ้าได้ รบกวนช่วยบอกว่า ใครก็ตามที่นั่งช่วงแถว 10-12 ที่กำลังตดบนเครื่อง ขอให้ไปพบแพทย์ด่วน เพราะเขาอาจจะเป็นมะเร็งที่ก้นน่ะ"

          แหม... นึกถึงภาพการเดินทางบนเครื่องบิน กับที่นั่งแถวเบียด ๆ ที่แต่ละคนก็ไม่สามารถลุกหนีไปไหนได้ การต้องทนสูดกลิ่นไม่เป็นมิตรกับจมูกตลอดการเดินทาง ช่างเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายจริง ๆ แต่อย่างไรก็ตาม Garwee20 เฉลยว่าสุดท้าย ก็ไม่มีการประกาศข้อความนี้ออกไป

          ทั้ง นี้ ศาสตราจารย์วิชาแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า บางทีการตดบ่อยอาจไม่ใช่ความผิดของผู้โดยสาร (ที่ก็ไม่รู้ว่าใคร) ไปเสียทีเดียว เพราะในสภาพความกดอากาศอย่างบนเครื่องบิน ส่งผลต่อกลไกการทำงานของร่างกาย ทำให้ตดบ่อยกว่าปกติได้อยู่แล้ว

 

ภาพจาก Garwee20 / reddit

http://hilight.kapook.com/view/131775