Sunday, November 29, 2015

ยกย่อง เมอรี่ สุนัขฮีโร่ปกป้องเจ้านายจนถูกโจรยิง-ช่วยเจ้านายรอดชีวิต




เมอรี่ สุนัขสุดกล้าหาญ พยายามเห่าไล่โจรจนตัวเองถูกยิง และนั่นทำให้เจ้านายสามารถหนีเอาชีวิตรอดได้

          เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2558 หน่วยงานสงเคราะห์สัตว์ Cape of Good Hope SPCA เผยเรื่องราวสุดหาญกล้าของเจ้าตูบตัวหนึ่ง ที่แม้ว่าจะไม่ใช่สุนัขดุและตัวก็ไม่ได้ใหญ่ แต่เมื่อที่บ้านถูกโจรบุกมันก็ไม่นิ่งเฉย พยายามไล่โจรจนตัวเองถูกยิงที่ขา และจังหวะนั้นเองที่ทำให้สมาชิกในบ้านส่วนหนึ่งสามารถหนีจากการถูกยิงได้

          เจ้าเมอรี่เป็นอดีตสุนัขจรจัดในเมืองเคปทาวน์ แอฟริกาใต้ ชีวิตมันโชคดีที่วันหนึ่งมันเจอคนใจดีครอบครัวหนึ่งนำมันไปเลี้ยงที่บ้าน แน่นอนมันผูกพันและภักดีกับสมาชิกทุกคนในครอบครัว เพราะถือว่าเป็นเจ้าของมัน จึงไม่แปลกที่เมื่อมีภัย มันจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยชีวิตเจ้านายทุกคน


            ในวันแห่งความสลดใจ คนร้ายกลุ่มหนึ่งได้บุกเข้ามาในบ้านพร้อมกับอาวุธ และเมื่อคนร้ายเผชิญหน้ากับคนในบ้าน เจ้าเมอรี่ก็มายืนอยู่ตรงหน้าคนร้าย มันเห่าอย่างสุดเสียงหวังจะให้คนร้ายล่าถอยไป แต่โดยไม่คาดคิด กลุ่มคนร้ายได้เริ่มลั่นไกปืนยิงสมาชิกในครอบครัว ทำให้สมาชิกที่เป็นผู้สูงอายุเสียชีวิต และยิงเจ้าเมอรี่เข้าที่ขาขวาหน้า ขณะที่มันกำลังยืนบังอยู่ข้างหน้าเจ้านายทั้งหลายของมัน

          จังหวะนั้นเองที่ทำให้สมาชิกส่วนหนึ่งสามารถหนีได้ทันและรอดชีวิต 

          หลังเกิดเหตุตำรวจพบมันในสภาพบาดเจ็บอย่างหนักที่ขาขวาหน้า จึงรีบแจ้งหน่วยงานสงเคราะห์สัตว์เข้ามาให้ความช่วยเหลือ และสัตวแพทย์ก็ได้ตัดขาขวาหน้าของมันออกไป เพื่อป้องกันความเจ็บปวดและภาวะแทรกซ้อน


             "ภาพของเจ้าเมอรี่แสดงให้รู้ว่ามันไม่ได้ถูกดูแลอย่างดีที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังซื่อสัตย์ต่อเจ้าของอย่างมาก" เบลินดา อับราฮัม จากหน่วยงานสงเคราะห์สัตว์ Cape of Good Hope SPCA

          ตอนนี้เจ้าเมอรี่ถูกส่งกลับไปอยู่กับครอบครัวของมันแล้ว หลังจากอาการบาดเจ็บเริ่มหายดี คาดว่ามันน่าจะวิ่งได้ด้วยขาแค่ 3 ขา ในเร็ววันนี้
http://pet.kapook.com/view135516.html

Thursday, November 26, 2015

บล็อกเกอร์สาวไอเดียพิสดาร ทำขนมปังจาก "น้ำจิ๊มิ"




          แทบอาเจียน เมื่อบล็อกเกอร์สาวรายนี้ผุดไอเดียพิสดาร ใช้สารคัดหลั่งจากช่องคลอด เป็นยีสต์ธรรมชาติทำขนมปังอบ !!

          เมื่อฟังแล้วอาจจะไม่เชื่อหู แต่คุณไม่ได้เข้าใจผิดอย่างแน่นอน เว็บไซต์ unilad ของอังกฤษ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2558 ได้เผยวิธีการทำขนมปังสุดพิสดารชวนอาเจียนของสาวรายหนึ่ง เธอทดลองใช้สารคัดหลั่งจากช่องคลอดของตัวเองแทนยีสต์ในการทำขนมปัง !!

          ซู สตาฟว์รี บล็อกเกอร์สาวเจ้าของความคิดเผยว่า ไอเดียทั้งหมดเริ่มมาจากความสงสัยทางวิทยาศาสตร์ว่าเชื้อราที่ช่องคลอดจะใช้ แทนยีสต์ทำขนมปังได้หรือเปล่า ดังนั้นเธอจึงจัดแจงทำขนมปังอบโดยใช้ยีสต์ธรรมชาติซึ่งได้มาจากสารคัดหลั่ง จากช่องคลอดของเธอเอง


             โดยหลังจากที่ซูได้ยีสต์จากธรรมชาติของเธอมาแล้ว ก็ได้ถ่ายรูปโชว์ลงทวิตเตอร์ส่วนตัว พร้อมกับระบุว่า เธอตั้งใจจะทำมันจริง ๆ ทั้งนี้บล็อกเกอร์สาวรายนี้ยังได้พยายามอธิบายตามวิธีคิดของเธอว่า "ช่องคลอดของคนเราเต็มไปด้วยยีสต์ (เชื้อรา) และแบคทีเรียจากธรรมชาติ ฉะนั้นเมื่อคุณเป็นเชื้อราคุณก็จะมียีสต์เพิ่มมากขึ้น ฉันแค่อยากจะรู้ว่ามันจะเวิร์กไหม ซึ่งมันอาจจะเป็นประโยชน์ก็เป็นได้"


            ทว่าหลังจากนั้นจึงเกิดเป็นกระแส วิพากษ์วิจาณ์อย่างหนักในโลกโซเชียล บางรายคอมเม้นท์ต่อว่าเธออย่างหนักว่า เธอต้องมีอาการป่วยทางจิตอย่างแน่นอน อย่างไรก็ดีหากพิจารณาตามมุมมองความคิดของเธอ เธอก็แค่อยากจะทดลองดูก็เท่านั้นเอง

ภาพจาก ทวิตเตอร์ @stavvers
http://hilight.kapook.com/view/129666

Wednesday, November 25, 2015

สุดหวาดเสียว นี่คือสะพานรถข้ามที่อันตรายที่สุดในโลก




          บนโลกของเรานี้มีแต่สะพานสุดอันตรายที่ขึ้นชื่อมากมาย แต่สำหรับสะพานที่ทำให้ใครหลายคนที่ต้องขับรถข้ามต้องหวาดเสียวจนเกือบหยุด หายใจมานักต่อนักแล้ว คงต้องยกให้สะพานคูอันดินสกี (Kuandinsky Bridge) ในเขตทรานส์-ไบคาล ของประเทศรัสเซียแห่งนี้เลย


           เว็บไซต์อ็อดดิตี้เซนทรัล (วันที่ 20 พฤศจิกายน 2558)  ได้เผยความน่าหวาดเสียวของสะพานแห่งนี้ให้ได้ชมกัน เนื่องด้วยความยาวของตัวสะพานยาวถึง 570 เมตร บวกกับความกว้างแค่ 2 เมตร อีกทั้งยังไม่มีราวสะพานกั้นขอบ จึงทำให้สะพานแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสะพานที่ไม่ปลอดภัยที่สุดในโลกสำหรับผู้ที่ต้องขับรถผ่าน


             เดิมทีสะพานคูอันดินสกีแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสะพานทางรถไฟข้ามแม่ น้ำวีทิม ในไซบีเรีย ดินแดนตอนกลางของรัสเซีย ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของสายรถไฟชื่อดัง ไบคาล-อามูร์ (Baikal–Amur Mainline) ที่เชื่อมระหว่างฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกของรัสเซีย แต่หลังจากสร้างเสร็จไม่เคยเปิดทำการ ชาวเมืองคูรันดาในละแวกใกล้เคียงกว่า 1,500 ชีวิต จึงต่างพากันใช้สะพานแห่งนี้ในการเดินทางข้ามแม่น้ำนี้


                 สะพานคูอันดินสกีสร้างขึ้นจากโครง เหล็กปิดทับด้วยไม้หมอนรถไฟ เนื่องจากสะพานแห่งนี้ไม่ได้ถูกเปิดใช้อย่างเป็นทางการ ฉะนั้นตั้งแต่มันถูกสร้างขึ้นมาจนถึงตอนนี้กว่า 30 ปี มันยังไม่เคยถูกซ่อมแซมเลยแม้แต่ครั้งเดียว เมื่อผ่านทั้งเวลาและสภาพอากาศที่โหดร้ายจึงทำให้ตัวสะพานแห่งนี้ทรุดโทรม เปราะบางและแตกหักเมื่อรับกับน้ำหนักของตัวรถยนต์


                   อีกทั้งในสภาพภูมิประเทศที่หนาวเย็นที่มีทั้งน้ำแข็งและหิมะปกคลุมเกือบตลอด ทั้งปี ทำให้สะพานแห่งนี้มีความลื่นสูงมาก ฉะนั้นหากคุณตั้งพวงมาลัยหรือขับพลาดไปไม่แม้แต่นิดเดียว ก็เท่ากับว่าความเย็นยะเยือกของแม่น้ำด้านล่างกำลังรอสัมผัสคุณอยู่ ไม่เพียงแต่ฤดูหนาวเท่านั้น การเดินทางข้ามสะพานแห่งนี้ในฤดูร้อนที่ลมแรงจึงนับว่าเป็นความท้าทายเช่น กัน ซึ่งชาวเมืองได้มีเทคนิคโดยการเปิดกระจกรถเพื่อผ่อนการต้านแรงลม เป็นการป้องกันไม่ให้รถถูกลมพัดตกสะพาน


                     ด้วยปัจจัยของสภาพอากาศและความห่างไกลความเจริญ ปัจจุบันชาวเมืองในพื้นที่จึงอพยพย้ายไปตั้งถิ่นฐานอยู่ที่อื่นที่ดีกว่า ทว่าสะพานแห่งนี้ก็ไม่ได้ถูกทิ้งร้างแต่อย่างใด กลับกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดขึ้นชื่อที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่รักความ ท้าทายเสี่ยงชีวิต ได้มาลองสัมผัสความหวาดเสียวของสะพานที่สุดของความอันตรายแห่งนี้






http://hilight.kapook.com/view/129601

Tuesday, November 24, 2015

ตะลึง พบงูเหลือมยักษ์เลื้อยพันรอบเจดีย์หน้าวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร




         ตะลึง ! พบงูเหลือมยักษ์เลื้อยพันรอบเจดีย์หน้าวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร จ.สิงห์บุรี คอหวยแห่ดู หวังตีเลขเด็ดเอาไว้เสี่ยงโชค

         วันที่ 24 พฤศจิกายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวโซเชียลตื่นตะลึงกับภาพงูเหลือมยักษ์เลื้อยพันรอบเจดีย์หน้าวัดพระนอน จักรสีห์วรวิหาร จ.สิงห์บุรี ที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก พร แสงใส นำมาเผยแพร่ โดยภาพที่ปรากฏนั้น จะเห็นว่า มีงูเหลือมขนาดใหญ่เลื้อยพันรอบเจดีย์ที่ประดับตกแต่งสระบัวหน้าวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร

 
         นอกจากนี้ เพจเฟซบุ๊ก วัดพระนอนจักรสีห์ วรวิหาร ก็ได้โพสต์ภาพงูเหลือมขนาดใหญ่เลื้อยพันรอบเจดีย์ที่ประดับตกแต่งสระบัวหน้าวัดพระนอนจักรสีห์
วรวิหาร โดยระบุว่า งูเหลือมตัวดังกล่าวได้เลื้อยขึ้นไปพันรอบเจดีย์ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 21 พฤศจิกายน 2558 


         ในเวลาต่อมา ก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย โดยส่วนใหญ่ต่างสงสัยว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพตัดต่อหรือไม่ จนกระทั่งมีผู้เข้ามายืนยันว่า ตนก็เป็นคนหนึ่งที่เห็นงูเหลือมพันรอบเจดีย์

 
         งานนี้ บรรดานักเสี่ยงโชคที่ทราบข่าวต่างแห่ดูงูเหลือมยักษ์ พร้อมช่วยกันตีเลขเด็ด อาทิ เลข 21, 55, 66, 65, 215 และ 521 เป็นต้น


http://lottery.kapook.com/view135093.html