เปิดภาพสะพรึง
มัมมี่ชินคอร์โร
มัมมี่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุอยู่ใต้ทะเลทรายมานานกว่า
7,000 ปี หลังค้นพบ กลับถูกแบคทีเรียกัดกินผิวหนังจนละลายกลายเป็นเมือกสีดำชวนสยอง
เว็บไซต์มิเรอร์ (วันที่ 1 พฤศจิกายน 2559) เปิดเผยภาพชวนสะพรึงพร้อมเรื่องราวของมัมมี่ชินคอร์โร (Chinchorro) ซึ่งเป็นมัมมี่ที่ได้ชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุอยู่ในช่วง 1,500-5,000 ปีก่อนคริสตกาล (ราว 7,000 ปีที่แล้ว) โดยมีการค้นพบมัมมี่ชินคอร์โร ประมาณกว่า 300 ร่าง ฝังอยู่ใต้ทะเลทรายอาตากามา ใกล้กับพรมแดนระหว่างประเทศชิลีและเปรู ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นทะเลทรายที่แห้งแล้งที่สุดของโลก
เว็บไซต์มิเรอร์ (วันที่ 1 พฤศจิกายน 2559) เปิดเผยภาพชวนสะพรึงพร้อมเรื่องราวของมัมมี่ชินคอร์โร (Chinchorro) ซึ่งเป็นมัมมี่ที่ได้ชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุอยู่ในช่วง 1,500-5,000 ปีก่อนคริสตกาล (ราว 7,000 ปีที่แล้ว) โดยมีการค้นพบมัมมี่ชินคอร์โร ประมาณกว่า 300 ร่าง ฝังอยู่ใต้ทะเลทรายอาตากามา ใกล้กับพรมแดนระหว่างประเทศชิลีและเปรู ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นทะเลทรายที่แห้งแล้งที่สุดของโลก
จากรายงานเผยว่า
ภาวะอากาศร้อนแห้งแล้งแบบทะเลทราย เป็นสาเหตุที่ช่วยรักษาสภาพศพโดยธรรมชาติ เมื่อนำออกมาจากทะเลทรายมาเจอความชื้นและอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป
แบคทีเรียจึงเริ่มกัดกินร่างของมัมมี่จนละลายกลายเป็นเมือกสีดำสุดสยอง ชวนให้น่าขนลุกไปมากกว่าเดิม
ทางด้านนักวิทยาศาสตร์จึงพยายามหาวิธีการป้องกันการเสื่อมสภาพของสภาพมัมมี่เหล่านี้
โดยคาดว่า หากมีการควบคุมความชื้นและอุณหภูมิแวดล้อม จะช่วยรักษาสภาพของมัมมี่ชินคอร์โรไว้ได้
ราล์ฟ มิทเชลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยา เผยว่า มัมมี่ชินคอร์โรถูกฝังกลบอยู่ใต้ทะเลทรายที่แห้งแล้งมานานหลายพันปี
เมื่อมันถูกนำขึ้นมาและสัมผัสความชื้นในอากาศ จึงทำให้แบคทีเรียสามารถเจริญเติบโตที่ผิวหนังของมัมมี่ได้
สำหรับมัมมี่ชินคอร์โร มีอายุมากกว่ามัมมี่อิยิปต์โบราณ และมีวัตถุประสงค์ในการทำที่แตกต่างกัน สำหรับมัมมี่ของอียิปต์นั้นจะทำกับชนชั้นสูง ตามความเชื่อว่าจะฟื้นคืนชีพ ขณะที่มัมมี่ชินคอร์โร ทำกับคนธรรมดารวมไปถึงเด็กหรือสตรีมีครรภ์ด้วยเช่นกัน เพื่อรักษาสภาพศพไว้ให้นานที่สุด
สำหรับมัมมี่ชินคอร์โร มีอายุมากกว่ามัมมี่อิยิปต์โบราณ และมีวัตถุประสงค์ในการทำที่แตกต่างกัน สำหรับมัมมี่ของอียิปต์นั้นจะทำกับชนชั้นสูง ตามความเชื่อว่าจะฟื้นคืนชีพ ขณะที่มัมมี่ชินคอร์โร ทำกับคนธรรมดารวมไปถึงเด็กหรือสตรีมีครรภ์ด้วยเช่นกัน เพื่อรักษาสภาพศพไว้ให้นานที่สุด
ปัจจุบันมัมมี่ชินคอร์โร ถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์อะซาปัส ซาน มิเกล (Azapas San Miguel) ในเมืองอาริกา ทางตอนเหนือของประเทศชิลี และมีการยื่นเสนอให้มัมมี่ชินคอร์โร ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของโลกกับทางองค์การยูเนสโก
http://hilight.kapook.com/view/144395
No comments:
Post a Comment