Thursday, July 28, 2016

ขนลุกซู่ ผู้โดยสารสหรัฐฯ ถาม เอามัมมี่หัวนักปรัชญาติดตัวขึ้นเครื่องได้ไหม !?




         ผู้โดยสารเครื่องบินตั้งคำถามชวนสยอง โพสต์ถามทางการด้านคมนาคมสหรัฐฯ ว่า มัมมี่ศีรษะของนักปรัชญาชาวอังกฤษ เจเรมี่ เบนแธม สามารถเอาติดตัวขึ้นเครื่องได้หรือไม่ พอคำตอบปรากฏออกมายิ่งขนลุกหนัก ทำได้ !!

          เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2559 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ รายงานว่า แซม ลาวีญจ์ หนุ่มอเมริกันจากบรู๊คลิน มหานครนิวยอร์ก ได้ตั้งคำถามชวนสยองนี้ไปยังทวิตเตอร์หน่วยงานความปลอดภัยด้านการคมนาคม สหรัฐฯ (TSA) ระบุชัด ๆ เน้น ๆ "ผมสงสัยว่า ถ้าจะเอามัมมี่ศีรษะของ เจเรมี่ เบนแธม อย่างในภาพนี้ เป็นสัมภาระติดตัวขึ้นไปบนเครื่อง สามารถทำได้หรือไม่ ขอบคุณครับ"

          หลังจากได้รับคำถามที่สร้างความฮือฮานี้มา ทางด้าน TSA ซึ่งเปิดพื้นที่บนอินสตาแกรมและเฟซบุ๊กให้ผู้คนได้ถามสิ่งที่อนุญาต/ไม่ อนุญาตในการโดยสารเครื่องบิน ก็ได้ตอบคำถามนี้กลับมาอย่างรวดเร็ว และนั่นทำให้ขนลุกซู่

  
            "มัมมี่ศีรษะของเจเรมี่ เบนแธม สามารถนำติดตัวขึ้นไปบนห้องโดยสารได้ ตราบใดที่มันถูกห่อบรรจุไว้อย่างเหมาะสมแล้วติดป้ายไว้ พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ด้วย อย่างไรก็ตามเราแนะนำให้ติดต่อสอบถามทางสายการบินว่าจะอนุญาตหรือไม่ เดินทางปลอดภัยครับ"

  
              เจเรมี่ เบนแธม มีชีวิตอยู่ระหว่างปี 1748-1832 เขาเป็นนักคิด นักกฎหมาย และนักปฏิรูปสังคมชาวอังกฤษ เบนแธมเสียชีวิตลงในวัย 84 ปี พร้อมกับทิ้งพินัยกรรมที่ระบุว่า ให้ยกร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่เพื่อการผ่าศึกษา จากนั้นเก็บโครงกระดูกและ "ศีรษะ" ของเขาเอาไว้ กระดูกให้ทำร่างขึ้นจำลองเหมือนตัวเขา สวมใส่สูทสีดำเช่นที่เขาเคยใส่ประจำเมื่อครั้งมีชีวิต ส่วนศีรษะให้นำไปทำเป็นหัวมัมมี่ แล้วนำมาประกอบใส่ร่าง กลายเป็นหุ่นแทนตัวเขาที่ยังคงมีศีรษะจริงของเขาอยู่ ส่วนดวงตานั้น เบนแธมก็ถึงกับพกลูกตาเทียมเอาไว้ติดตัวตลอดเวลา เพื่อให้คนที่ดูแลศพรู้ว่าต้องนำมันมาใส่แทนลูกตาจริง ๆ ของเขา

  
               ปัจจุบันหุ่นและศีรษะของเบนแธมถูก จัดแสดงไว้ในมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน โดยมีสภาพที่ต่างจากที่เขาต้องการเล็กน้อย นั่นคือได้มีการปั้นศีรษะขี้ผึ้งมาใส่ไว้บนร่างแทนมัมมี่ศีรษะจริง ๆ ของเขา เนื่องจากมัมมี่ศีรษะของเขานั้นมีสภาพไม่ชวนมองอย่างที่เห็น

ภาพจาก University College London, hyperallergic
http://hilight.kapook.com/view/140031

No comments:

Post a Comment