Thursday, August 18, 2016

สิงโตป่วยใกล้ตายมีชีวิตใหม่ราวปาฏิหาริย์ เมื่อมันได้เจอ "รักแรกพบ"




สิงโตป่วย ใกล้ตายได้เจอคู่ บังเกิดเป็นรักแรกพบ นอกจากยาที่ใช้ช่วยรักษาอาการป่วย ก็ได้ความรักเนี่ยล่ะมาเยียวยาจนตอนนี้หายเป็นปลิดทิ้งเลย 

          ใครว่าเรื่องราวปาฏิหาริย์แห่งความรักจะมีเพียงแค่ในมนุษย์อย่างเรา ๆ เท่านั้น แต่สัตว์ก็มีเหมือนกันนะ ดังเช่นเรื่องราวของเจ้าชีลา สิงโตเพศเมียวัย 15 เดือนตัวนี้ ที่เว็บไซต์ Bored Panda นำ เรื่องราวมาฝากกัน รายงานระบุว่า เจ้าชีลาเป็นสิงโตเพศเมียที่มีชะตากรรมน่าเศร้า มันถูกมนุษย์จับมานั่งโชว์เหมือนสินค้าให้ผู้คนได้ถ่ายรูป แต่แล้วพอมันป่วยหนัก ผู้ดูแลก็กลับละเลย ปล่อยให้มันนอนไร้เรี่ยวแรงและอาเจียนอยู่อย่างน่าเวทนา กระทั่งศูนย์ศึกษาและพิทักษ์สัตว์ป่า In-Sync Exotics ในรัฐเทกซัส ได้พบเข้า จึงได้ช่วยเหลือมันออกมาจากมนุษย์ใจร้าย พวกเขาพยายามรักษาแถมชุบชีวิตใหม่ให้มันกลับมาสุขภาพดีด้วย "ความรัก"

  
         วิคกี้ ผู้ก่อตั้งศูนย์ฯ เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาการช่วยเหลือ 2 สัปดาห์ การให้อาหารเจ้าชีลาค่อนข้างลำบาก เธอต้องปั้นเนื้อเป็นก้อนลูกชิ้นกลม ๆ ก่อนจะนำไปหย่อนใส่คอให้มันกินกับมือ นอกจากนี้เจ้าชีลายังเป็นโรคท็อกโซพลาสโมซิส อาการป่วยซึ่งเกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัว ทำให้ไม่อยากอาหารและอิดโรยเซื่องซึม แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเธอก็ไม่ยอมแพ้ทิ้งมันให้ตายง่าย ๆ หมั่นรักษาอยู่เรื่อย ๆ จนอาการมันค่อย ๆ ดีขึ้น

 

          เมื่อเจ้าชีลาเริ่มอาการดีขึ้น มันก็ถูกย้ายให้ไปอยู่ในกรงใกล้กับเจ้าคาห์น สิงโตเพศผู้วัย 6 ปี สิงโตอีกตัวที่ทางศูนย์ช่วยเหลือไว้ และที่นั่นเองทำให้รักแรกพบบังเกิดขึ้น เมื่อเจ้าชีลาได้เจอกับเจ้าคาห์นครั้งแรกมันก็ตกหลุมรักในทันที จากนั้นทั้งคู่ก็ถูกจับให้ไปออกเดทด้วยกันโดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ หลังจากทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันความสัมพันธ์รักก็พัฒนามากขึ้นอย่างคาดไม่ถึง ทางเจ้าหน้าที่จึงจัดให้มันอยู่ด้วยกันแบบถาวรเลย 

 
          นับแต่นั้นมาเจ้าชีลาและคาห์นก็ตัวติดกันตลอดไปไหนมาไหนด้วยกัน คอยเป็นกำลังใจให้กันและกันในทุก ๆ วัน นอกจากสุขภาพของเจ้าชีลาที่แข็งแรงขึ้นทุกวัน ๆ ใบหน้าของมันในวันนี้ ก็แตกต่างจากวันแรกที่ช่วยหลือมาอย่างสิ้นเชิง ทั้งสดใส ร่าเริง แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข เห็นแล้วชวนอบอุ่นหัวใจไม่น้อยทีเดียว
























http://hilight.kapook.com/view/141021

No comments:

Post a Comment