ชาวเน็ตจีนผู้รักสัตว์เดือดดาล
แห่จวกสวนสัตว์ปักกิ่งยับ หลังมีภาพเสือ-สิงโต
ผอมกะหร่องหิวโซ หน้าตาเศร้าสร้อยว่อนเน็ต
วอนสวนสัตว์มีสำนึกมากกว่านี้ ด้านสวนสัตว์ปฏิเสธ อ้างเสือและสิงโตแค่ป่วยเท่านั้น
วันที่ 22 ตุลาคม 2558 เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ เปิด เผยภาพชวนหดหู่ใจจากสวนสัตว์ปักกิ่ง ที่ขณะนี้กำลังเป็นประเด็นอื้อฉาวอย่างมากในโลกออนไลน์จีน หลังจากกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเสรีภาพสัตว์ ได้โพสต์ภาพของเสือและสิงโตในสวนสัตว์ปักกิ่งที่มีสภาพผอมโซ หิวโหย และดูไม่มีความสุข ลงบนเว็บไซต์เว่ยป๋อ พร้อมประณามการกระทำของสวนสัตว์ว่าไร้สำนึกและความรับผิดชอบ
แต่ ทั้งนี้ หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปทั่วอินเทอร์เน็ต จนสำนักข่าวต่าง ๆ ตามไปสืบความจริงที่สวนสัตว์แล้วนั้น พบว่าไม่มีสิงโตและเสือสภาพผอมกะหร่องอย่างที่อ้างโลกออนไลน์แต่อย่างใด แต่สัตว์ต่าง ๆ ในสวนสัตว์ล้วนมีสุขภาพแข็งแรงดี
วันที่ 22 ตุลาคม 2558 เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ เปิด เผยภาพชวนหดหู่ใจจากสวนสัตว์ปักกิ่ง ที่ขณะนี้กำลังเป็นประเด็นอื้อฉาวอย่างมากในโลกออนไลน์จีน หลังจากกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเสรีภาพสัตว์ ได้โพสต์ภาพของเสือและสิงโตในสวนสัตว์ปักกิ่งที่มีสภาพผอมโซ หิวโหย และดูไม่มีความสุข ลงบนเว็บไซต์เว่ยป๋อ พร้อมประณามการกระทำของสวนสัตว์ว่าไร้สำนึกและความรับผิดชอบ
แต่ ทั้งนี้ หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปทั่วอินเทอร์เน็ต จนสำนักข่าวต่าง ๆ ตามไปสืบความจริงที่สวนสัตว์แล้วนั้น พบว่าไม่มีสิงโตและเสือสภาพผอมกะหร่องอย่างที่อ้างโลกออนไลน์แต่อย่างใด แต่สัตว์ต่าง ๆ ในสวนสัตว์ล้วนมีสุขภาพแข็งแรงดี
ด้านเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ปักกิ่งให้การกับผู้สื่อข่าวว่า
เสือและสิงโตที่ปรากฏในภาพที่ว่อนไปทั่วอินเทอร์เน็ตนั้น เป็นสัตว์ที่ป่วยด้วยอาการเล็ก
ๆ น้อย ๆ ทำให้มันกินอาหารได้น้อยลงจนดูผอมโซ และสัตว์เหล่านี้ก็ถูกพาออกจากสถานที่จัดแสดง
และพาไปดูแลรักษาที่ศูนย์เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเสริมว่า เสือในภาพนั้นเป็นเสือพันธุ์เบงกอล ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเสือทั่วไปเป็นปกติอยู่แล้ว เมื่อมันป่วยและกินอาหารได้น้อย จึงทำให้มันดูผอมโซกว่าปกติมากขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ดี
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ทางสวนสัตว์จะดูแลเอาใจใส่เกี่ยวกับเรื่องโภชนาการอาหารของเสือและสิงโตให้
มากกว่านี้ รวมถึงจะมีการตรวจสอบน้ำหนักของพวกมันให้ได้เกณฑ์ที่เหมาะสมเป็นประจำ
ภาพจาก shanghaiist.com
ภาพจาก shanghaiist.com
http://hilight.kapook.com/view/128197
No comments:
Post a Comment